วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

JASบุ๊คกำไร3หมื่นล้าน ขายอินฟราฯฟันด์มิ.ย.นี้ ปีนี้ลูกค้า 1.7 ล้านราย ขึ้นเบอร์ 1 บรอดแบนด์

JASบุ๊คกำไร3หมื่นล้าน
ขายอินฟราฯฟันด์มิ.ย.นี้
ปีนี้ลูกค้า 1.7 ล้านราย ขึ้นเบอร์ 1 บรอดแบนด์
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2557
ผู้เข้าชม : 10 คน
"JAS" จ่อขายกองทุนอินฟราฯ 7 หมื่นล้านบาทเดือนมิ.ย.นี้ คาดได้กำไรจากขายสินทรัพย์เข้ากองทุนราว 3 หมื่นล้านบาท ดันกำไรปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีลูกค้า 1.7 ล้านราย ขึ้นเบอร์ 1 ธุรกิจบรอดแบนด์ โบรกฯแนะ “ซื้อ” เป้า 11.20 บาท





นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต มูลค่า 70,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ในช่วงเดือนมิ.ย. 2557 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

โดยบริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯประมาณ 30,000 ล้านบาท และบริษัทมีแผนนำเงินกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯไปใช้ขยายธุรกิจจำนวน 10,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าปีนี้จะใช้งบลงทุนเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปกติ 1,500-2,000 ล้านบาท เป็น 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายเพิ่มเติมในจุดที่ประชากรไม่หนาแน่นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ส่วนที่เหลือบริษัทจะนำไปจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ที่ถือหน่วยลงทุน

"บริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากการนำสินทรัพย์ขายเข้ากองทุน IFF ประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่จะทยอยบันทึกเป็นกำไรพิเศษกี่ปีขึ้นอยู่กับก.ล.ต.และผู้ตรวจสอบบัญชี จะทำให้กำไรของบริษัทในปีนี้สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,002.51 ล้านบาท" นายพิชญ์ กล่าว

นายพิชญ์ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในตลาดบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การให้บริการมากที่สุดในประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงมีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนฯให้มีขึ้น เพราะเชื่อว่าการระดมทุนในการจัดตั้งกองทุนฯดังกล่าวจะประสบความสำเร็จด้วยดี

ทั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาและขยายโครงข่ายการให้บริการอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขยายตัวไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยีโครงข่าย หรือการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการเติบโตในอนาคตอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามโครงข่ายที่จะนำไปขายเข้ากองทุนฯมีลูกค้าใช้งานอยู่ประมาณ 1.6-1.7 ล้านรายซึ่งกลุ่มบริษัทเช่ากลับมาใช้งาน คงเหลือให้ผู้ประกอบการรายอื่นมาเช่าไม่มาก

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายในปีนี้จะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจบรอดแบนด์ระบบ ADSL จากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 2 รองจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE โดยในไตรมาส 1/2557 บริษัทมีลูกค้าใหม่ของบริการบรอดแบนด์ประมาณ 60,000 ราย และคาดว่าทั้งปีจะมีลูกค้าใหม่สุทธิเพิ่มขึ้น 230,000-240,000 ราย ทำให้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีฐานลูกค้ารวมเพิ่มเป็น 1.7 ล้านราย จากปีก่อนมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 1.4 ล้านราย ขณะที่ลูกค้าธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง (FTTX) อยู่ที่ 20,000 ราย

ส่วนธุรกิจ Wifi ที่ทำสัญญาให้บริการกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ตั้งเป้าหมายมีลูกค้า Wifi อยู่ที่ 600,000 ราย ขณะเดียวกันมีการหารือกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุปในการร่วมมือกัน

นายพิชญ์ กล่าวว่า บริษัทมีโอกาสเติบโตในธุรกิจบรอดแบนด์ต่อไปได้อีกมาก เนื่องจากในปี 2555 สัดส่วนการใช้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงต่อครัวเรือนในประเทศไทยมีเพียง 18.9% เท่านั้น ซึ่งไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีสัดส่วนการใช้บริการมากกว่า 50%

บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ระบุว่า ในปี 2557 JAS ตั้งเป้าหมายลูกค้า Broadband Internet 1.5 ล้านราย ทำให้ประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน เป็น 12,266 ล้านบาท ในจำนวนนี้รายได้บริการ Broadband Internet มีสัดส่วน 86% และมีฐานรายได้แตะ 10,000 ล้านบาทเป็นปีแรก จากการเติบโตของจำนวนลูกค้าและการขยายพื้นที่ให้บริการ คาดว่าผลการดำเนินงานจากธุรกิจปกติจะมีกำไร 3,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

ขณะที่ตามประมาณการคาดว่าปีนี้กระแสเงินสดจากธุรกิจปกติเพิ่มขึ้น 5% และมีกระแสเงินสดปี 2557-2559 เพิ่มขึ้นต่อปี 7% หากจัดตั้ง IFF มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาท สำเร็จ JAS น่าจะได้รับเงินสุทธิราว 25,000-30,000 ล้านบาท รองรับการลงทุนและจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น คาดปีนี้จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.28 บาท ให้ผลตอบแทน 3% ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 11.20 บาท

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น