‘โจรกลับใจ’ ไม่ใช่พระเอก
คอลัมน์ วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2557ผู้เข้าชม : 9 คน
สัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งสัญญาณดีและร้ายต่อสถานการณ์บ้านเมือง สัญญาณร้ายคือการฆาตกรรม “ไม้หนึ่ง ก.กุนที” กวีแกนนำเสื้อแดง ซึ่งน่าวิตกว่าเป็นการ “เก็บ” ตามบัญชีดำ ซ้ำปฏิกิริยาที่สะท้อนออกมายังชี้ว่าคนไทย 2 ฝ่ายเกลียดชังกันรุนแรง ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งโกรธแค้น อีกฝ่ายกลับสะใจ
แต่ก็มีสัญญาณดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนวินิจฉัยถอดถอนนายกฯ ออกไปหลังวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งเปรียบเสมือนเลื่อน “ดีเดย์แตกหัก” ถัดจากนั้น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำเซอร์ไพรส์ เสนอทางออก “ปฏิรูปพร้อมเลือกตั้ง” ยอมรับว่ารัฐประหาร ศาล ม็อบ ล้วนไม่ใช่ทางออก
ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปกันมาว่าเป็นความผิดของใคร เพราะทุกคนล้วนมีส่วนทำให้ประเทศมาอยู่ตรงนี้ รวมทั้งผมและพรรคประชาธิปัตย์ด้วย”
แหม น้ำตาจะไหล หล่อ เท่ ดี มีสปิริตเสียกระไร ประเทศไทยเห็นแสงสว่างรำไร ไชโย
แต่เอ๊ะ ก็เพราะ ปชป.ไม่ลงเลือกตั้งไม่ใช่หรือ สถานการณ์จึงลุกลามมาถึงวันนี้ ที่เป่านกหวีดปรี๊ดๆ ก็สมาชิกพรรคทั้งนั้นไม่ใช่หรือ ป่วนเมืองมา 6 เดือน เมื่อถึงทางตันดันทุรังไม่ไหว ไหงโดดเรือมาโชว์หล่อ ขอเป็นผู้นำการปฏิรูป เป็นพระเอกแต่ผู้เดียว
ประวัติศาสตร์จะจารึกว่าบ้านเมืองพ้นวิกฤตเพราะอภิสิทธิ์เป็นตัวกลาง อย่างนั้นหรือ
พูดอย่างนี้ไม่ใช่คัดค้านสิ่งที่อภิสิทธิ์เสนอ เห็นด้วยสิครับ ถ้าจะกลับสู่แนวทางที่ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตย หาทางออกให้ประเทศ เจรจาหาทางเลือกตั้งอย่างมีเงื่อนไข เลือกตั้งเพื่อปฏิรูป แม้ยังไม่รู้จะลงเอยอย่างไร แต่ก็ดีกว่าไปสู่สงครามกลางเมืองที่เห็นอยู่ข้างหน้า
แต่บอกก่อนนะว่าคุณคือโจรกลับใจ ไม่ใช่พระเอก แล้วก็ยังไว้วางใจไม่ได้ว่าจะเล่นเล่ห์อะไรอีกหรือเปล่า
การพลิกท่าทีของขั้วอำนาจเก่าที่มุ่ง “โค่นระบอบทักษิณ” ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ แต่เพราะเห็นว่าดันต่อไปไม่ได้ จะฉิบหายกันทุกฝ่าย สมมติศาลไม่แยแสใคร สั่งถอดถอนยิ่งลักษณ์ นำไปสู่นายกฯ คนกลาง ก็สามารถทำได้ อ้างได้ว่านี่คืออำนาจศาลทุกคนต้องเชื่อฟัง ศาลอยู่เหนืออำนาจ 3 ฝ่าย อย่างบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อ้าง แต่แนวโน้มคือเสื้อแดงไม่ยอมแน่ จะต้องลุกฮือต่อต้าน ทำให้เกิด failed state ย้อนรอยกัน สิ่งที่ตามมาคือสงครามกลางเมือง โดยคนทั้งสองข้างที่ไม่มีใครห้ามได้ จะลากอาวุธออกมาฆ่าฟันกันเอง
ซึ่งภาคธุรกิจ คนทำมาหากิน ไม่อยากเห็นแน่ กระแสยับยั้งสงครามกลางเมืองจึงก่อตัวขึ้นทั้งเงียบๆ และเปิดเผย ขั้วอำนาจเก่าจึงขยาด ไม่กล้าแตกหัก แต่ก็ยังไม่รู้จะเอาอย่างไร จะเลือกแนวทางกลุ่มเฒ่าทารกเสนอพระบรมราชโองการหรือ ก็เท่ากับดึงสถาบันสูงสุดลงมาคลุกการเมือง
หมากที่อภิสิทธิ์เดิน หรือใครให้อภิสิทธิ์เดิน จึงฉลาดมาก เท่ากับสถานการณ์สร้างโจรเป็นวีรบุรุษ แต่ไม่ว่ากัน ถ้าจริงใจ ถ้าทำสำเร็จ ตบมือให้ด้วยซ้ำ เพราะประเทศจะหาทางออกได้ ก็ต้องมีตัวกลางของแต่ละฝ่าย โน้มน้าวจูงใจไปสู่การเจรจา
เอาสิครับ ถ้าทำสำเร็จ ตกลงวันเลือกตั้งได้ เจรจาตั้งเงื่อนไขปฏิรูปได้ สมมติตั้งสภาปฏิรูป เลือกตั้งรัฐบาลชั่วคราว อภิสิทธิ์ก็จะได้ลงเลือกตั้งอย่างสง่าผ่าเผย ให้สัมภาษณ์ BBC, CNN โดยไม่ต้องพึ่งปี๊บ ถ้าประชาชนนิยมก็เอาตำแหน่งนายกฯไป
เพียงแต่ยังไว้วางใจไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความตระหนัก ความเต็มใจ อย่างที่พูดไปแล้ว สถานการณ์ยังพร้อมจะพลิกไปพลิกมา อยู่ที่ความเข้มแข็งของสังคม ว่าจะช่วยกันประคองให้สองฝ่ายหาทางลงได้หรือเปล่า
ใบตองแห้ง
27 เม.ย.57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น