ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ช่องว่างที่ถ่างกว้าง
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 07 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 6 คน
เหมือนฟ้าฟาดเข้ากลางหว่างใจ เพราะวันเดียวกันกับที่ผู้บริหารของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE นั่งประกาศแผนธุรกิจทั้งปี 2557 อย่างสวยหรูว่าจะกลับมาทำกำไร และภายใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างฐานลูกค้าธุรกิจโทรคมนาคมได้มากถึง 100 ล้านคน (ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรของไทยทั้งประเทศ) ข่าวร้ายจากบริษัทเรตติ้งระดับโลกก็ทำให้แผนการที่วาดเอาไว้สวยงามมีอันขี้เหร่เกือบทั้งหมด
นายโยชิโอะ ทากาฮาชิ ผู้ช่วยรองประธานและนักวิเคราะห์ สำนักงานสาขาฮ่องกงของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือบริษัทของ TRUE และลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือบริษัท และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน ลงสู่ระดับ Caa1 (มีความเสี่ยงที่สำคัญ) จากระดับ B3 (เก็งกำไรสูง)
ตีความตามเกณฑ์ของมูดี้ส์ (ดูตารางประกอบ) แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของ TRUE ซึ่งเป็นการสรุปผลการทบทวนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่มูดี้ส์ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2556 อยู่ในเชิงลบ ที่สะท้อนถึงภาวะธุรกิจ และการเงินที่เปราะบาง แม้ว่าบริษัทได้ทำการปรับลดระดับหนี้ลง ด้วยการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจัดตั้งขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2556
ปัญหาของ TRUE ในสายตาของมูดี้ส์ คือ ระดับหนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ เมื่อพิจารณาจากกระแสเงินสดที่ติดลบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก (1) ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (2) การลงทุนขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ในการให้บริการธุรกิจ 3G และ 4G (3) รวมทั้งแนวโน้มการจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นหลังจากการประมูลคลื่นความถี่ 1.8 กิกะเฮิรตซ์ ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะยังคงต้องพึ่งพาการกู้ยืมจากธนาคารในประเทศ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า การสนับสนุนที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่
ข้อสรุปท้ายสุดของมูดี้ส์คือ การปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทจึงไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้ เว้นเสียแต่ว่าบริษัทจะทำการปรับปรุงภาวะทางการเงินและสภาพคล่องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการดำรงสัดส่วนหนี้/กำไรก่อนรายการ ดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 6.0-6.5 เท่า เป็นเวลาระยะหนึ่ง และให้กระแสเงินสดติดลบอยู่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ถึง 1.0 หมื่นล้านบาท
คำเตือนของมูดี้ส์เป็นสิ่งที่ดูเหมือนผู้บริหารจะรับทราบพอสมควร โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร TRUE แย้มว่า อาจจะมีการเพิ่มทุนใหม่เพื่อเปิดทางพันธมิตรเข้ามาถือหุ้น 25% ในช่วงครึ่งหลังปี ส่วนเป้าหมายกลับมาทำกำไรนั้น ก็แย้มอีกเช่นกันว่าเป็นไปได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEGIF และการทำกำไรขั้นต้น เพื่อเตรียมพร้อมสู่การกำไรเต็มที่ในปี 2558
ที่สำคัญ ยังมีการเปิดช่องเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า โอกาสที่ TRUE จะขายสินทรัพย์ที่เป็นไฟเบอร์ ออพติก ให้กับกองทุน TRUEGIF ในเฟส 2 ก็ยังไม่ทำให้เกิดทางตัน เพียงแต่ยังมีคำถามตามมาว่า ลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทรูมูฟจะเติบโต 12-13% จากปีก่อน ส่วนลูกค้าบรอดแบนด์ จะเพิ่มอีก 4-5 แสนรายจากสิ้นปี 56 มีจำนวน 1.8 ล้านราย และลูกค้าทรูวิชั่นส์ จะเพิ่มอีก 4-5 แสนรายจากปีก่อนมี 2.4 ล้านราย ตามที่วาดเอาไว้ได้จริงหรือไม่ ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องรอการพิสูจน์
อย่าลืมว่า นายศุภชัยเองก็พูดไว้เมื่อต้นปี 2556 (ที่นักลงทุนจำนวนมากอาจลืมไปแล้ว) ว่า ปี 2556 จะเป็นปีที่มีกำไรแน่นอน ซึ่งผลลัพธ์ปรากฏอยู่ในรายงานชี้แนะของมูดี้ส์ ว่าเป็นเช่นใด
............
รายละเอียดอันดับเรตติ้งของบริษัทชั้นนำของโลก
Moody's
S&P
Fitch
rating description
Long-term
Short-term
Long-term
Short-term
Long-term
Short-term
Aaa
P-1
AAA
A-1+
AAA
F1+
Prime
A1
A+
A-1
A+
F1
Upper medium grade
Baa1
BBB+
BBB+
Lower medium grade
Baa2
P-3
BBB
A-3
BBB
F3
Ba1
Not prime
BB+
B
BB+
B
Non-investment grade
speculative
B1
B+
B+
Highly speculative
Caa1
CCC+
C
CCC
C
Substantial risks
Caa2
CCC
Extremely speculative
Caa3
CCC-
Default imminent with little
prospect for recovery
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 07 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 6 คน
เหมือนฟ้าฟาดเข้ากลางหว่างใจ เพราะวันเดียวกันกับที่ผู้บริหารของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE นั่งประกาศแผนธุรกิจทั้งปี 2557 อย่างสวยหรูว่าจะกลับมาทำกำไร และภายใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างฐานลูกค้าธุรกิจโทรคมนาคมได้มากถึง 100 ล้านคน (ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรของไทยทั้งประเทศ) ข่าวร้ายจากบริษัทเรตติ้งระดับโลกก็ทำให้แผนการที่วาดเอาไว้สวยงามมีอันขี้เหร่เกือบทั้งหมด
นายโยชิโอะ ทากาฮาชิ ผู้ช่วยรองประธานและนักวิเคราะห์ สำนักงานสาขาฮ่องกงของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือบริษัทของ TRUE และลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือบริษัท และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน ลงสู่ระดับ Caa1 (มีความเสี่ยงที่สำคัญ) จากระดับ B3 (เก็งกำไรสูง)
ตีความตามเกณฑ์ของมูดี้ส์ (ดูตารางประกอบ) แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของ TRUE ซึ่งเป็นการสรุปผลการทบทวนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่มูดี้ส์ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2556 อยู่ในเชิงลบ ที่สะท้อนถึงภาวะธุรกิจ และการเงินที่เปราะบาง แม้ว่าบริษัทได้ทำการปรับลดระดับหนี้ลง ด้วยการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจัดตั้งขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2556
ปัญหาของ TRUE ในสายตาของมูดี้ส์ คือ ระดับหนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ เมื่อพิจารณาจากกระแสเงินสดที่ติดลบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก (1) ผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (2) การลงทุนขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ในการให้บริการธุรกิจ 3G และ 4G (3) รวมทั้งแนวโน้มการจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นหลังจากการประมูลคลื่นความถี่ 1.8 กิกะเฮิรตซ์ ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะยังคงต้องพึ่งพาการกู้ยืมจากธนาคารในประเทศ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า การสนับสนุนที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่
ข้อสรุปท้ายสุดของมูดี้ส์คือ การปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทจึงไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้ เว้นเสียแต่ว่าบริษัทจะทำการปรับปรุงภาวะทางการเงินและสภาพคล่องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการดำรงสัดส่วนหนี้/กำไรก่อนรายการ ดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 6.0-6.5 เท่า เป็นเวลาระยะหนึ่ง และให้กระแสเงินสดติดลบอยู่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ถึง 1.0 หมื่นล้านบาท
คำเตือนของมูดี้ส์เป็นสิ่งที่ดูเหมือนผู้บริหารจะรับทราบพอสมควร โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร TRUE แย้มว่า อาจจะมีการเพิ่มทุนใหม่เพื่อเปิดทางพันธมิตรเข้ามาถือหุ้น 25% ในช่วงครึ่งหลังปี ส่วนเป้าหมายกลับมาทำกำไรนั้น ก็แย้มอีกเช่นกันว่าเป็นไปได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEGIF และการทำกำไรขั้นต้น เพื่อเตรียมพร้อมสู่การกำไรเต็มที่ในปี 2558
ที่สำคัญ ยังมีการเปิดช่องเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า โอกาสที่ TRUE จะขายสินทรัพย์ที่เป็นไฟเบอร์ ออพติก ให้กับกองทุน TRUEGIF ในเฟส 2 ก็ยังไม่ทำให้เกิดทางตัน เพียงแต่ยังมีคำถามตามมาว่า ลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทรูมูฟจะเติบโต 12-13% จากปีก่อน ส่วนลูกค้าบรอดแบนด์ จะเพิ่มอีก 4-5 แสนรายจากสิ้นปี 56 มีจำนวน 1.8 ล้านราย และลูกค้าทรูวิชั่นส์ จะเพิ่มอีก 4-5 แสนรายจากปีก่อนมี 2.4 ล้านราย ตามที่วาดเอาไว้ได้จริงหรือไม่ ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องรอการพิสูจน์
อย่าลืมว่า นายศุภชัยเองก็พูดไว้เมื่อต้นปี 2556 (ที่นักลงทุนจำนวนมากอาจลืมไปแล้ว) ว่า ปี 2556 จะเป็นปีที่มีกำไรแน่นอน ซึ่งผลลัพธ์ปรากฏอยู่ในรายงานชี้แนะของมูดี้ส์ ว่าเป็นเช่นใด
............
รายละเอียดอันดับเรตติ้งของบริษัทชั้นนำของโลก
Moody's
S&P
Fitch
rating description
Long-term
Short-term
Long-term
Short-term
Long-term
Short-term
Aaa
P-1
AAA
A-1+
AAA
F1+
Prime
A1
A+
A-1
A+
F1
Upper medium grade
Baa1
BBB+
BBB+
Lower medium grade
Baa2
P-3
BBB
A-3
BBB
F3
Ba1
Not prime
BB+
B
BB+
B
Non-investment grade
speculative
B1
B+
B+
Highly speculative
Caa1
CCC+
C
CCC
C
Substantial risks
Caa2
CCC
Extremely speculative
Caa3
CCC-
Default imminent with little
prospect for recovery
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น