ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: คนป่วยแห่งอาเซียน
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 25 คน
มติชนพาดหัวข่าวเฉียบคม “หัวร่อมิได้ ร่ำไห้มิออก! ประเทศไทยคว่ำ 2 ล้านล้าน อินโดฯ เดินหน้า 14 ล้านล้าน” พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งโครงการ 2 ล้านล้านของไทยจบไปแล้ว ต่อให้นายกฯ คนกลางก็ทำไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า “เงินกู้ เงินนอกงบประมาณ” เป็น “เงินแผ่นดิน” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ฉะนั้น ต่อไป “เงินกู้” ต้องอยู่ในงบประมาณประจำปี รัฐบาลไหนก็กู้เงินก้อนใหญ่ไม่ได้
ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ หากยังมีความขัดแย้งในแนวคิดทางเศรษฐกิจ เช่นที่ตุลาการถาม ทำไมไม่ราดยางถนนลูกรังให้หมดก่อน
จำได้ไหม ที่ศาลปกครองสั่งระงับประมูล 3G เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ศาลบอกว่าไม่มี 3G ไม่เห็นเป็นไร ก็มี 2G ใช้อยู่ทั่วประเทศแล้ว
จำได้ไหม ที่ศาลปกครองสั่งระงับ 76 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตามคำฟ้องของสมาคมต่อต้านโลกร้อน ที่อ้างว่ากรมควบคุมมลพิษอนุมัติโดยไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งที่โครงการส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาก่อมลภาวะ
ขบวนการ “โค่นระบอบทักษิณ” ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน ไม่ได้บอกแค่ต้องการต่อต้านอำนาจนิยม คอร์รัปชั่น แต่ยังต่อต้าน “ทุนสามานย์” สวนทาง “ทักษิโณมิกส์” ซึ่งถ้าว่าตามเนื้อผ้า วิธีคิดแบบทักษิณแม้ว่าจะทำให้เติบโตก้าวกระโดด แต่ก็โลดโผนสุ่มเสี่ยง ขณะที่พวกเอ็นจีโอโนมิกส์ ก็สุดโต่งไปอีกทาง ต่อต้านโลกาภิวัตน์จนปฏิเสธหมด
ที่แย่กว่านั้นคือการขุดหาเรื่องโจมตีทักษิณโดยไม่แยกแยะ เช่น “ขายชินขายชาติ” ไม่พอใจผลประโยชน์ทับซ้อนก็ว่าไปอย่าง แต่สร้างกระแสคลั่งชาติด่าทอ “สิงคโปร์โตก”
ไม่เห็นด้วยกับการแปรรูป ปตท.ก็ไปขุดผู้เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยได้หุ้นจอง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของนักเล่นหุ้น “ขาใหญ่” มาใส่สีตีไข่จนวันนี้ ผ่านรัฐประหาร ผ่านรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ยังมีพวกเป่านกหวีดจำนวนมากเชื่อว่าทักษิณถือหุ้นใหญ่ ปตท. บานปลายไปเป็น “ทวงคืน ปตท.” สติเฟื่องถึงขั้นเห็นประเทศไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน
คุณบรรยง พงษ์พานิช บอกว่าถ้ายังขัดขวางการให้สัมปทานขุดเจาะสำรวจ (โดยเชื่อว่าเป็นเศรษฐีน้ำมันต้องโก่งราคาสูง) ประเทศก็จะมีก๊าซธรรมชาติใช้อีกราว 7 ปีเท่านั้น (ว่าแล้วคุณบรรยงก็ถูกพวกทวงคืนเผาพริกเผาเกลือ หาว่าเป็นสมุนทักษิณ ทั้งที่เขียนด่าทักษิณคอร์รัปชั่นอยู่ทุกวัน)
แย่ไปกว่านั้น แหล่งทรัพยากรสำคัญคือพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชาในทะเล ก็เป็นไปได้ว่าต้องรออีก 20-30 ปี ให้คนรุ่นนี้ตายก่อน เพราะคดีปราสาทพระวิหาร ที่ไม่มีฝอยหมายังขี้ แค่แถลงการณ์ร่วมให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตามพื้นที่มติคณะรัฐมนตรีปี 2505 เอามาปลุกคลั่งชาติบานปลายจนกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ขนาดรัฐบาล ปชป.ยังโดนข้อหา “ขายชาติ” จากการทำ MOU ปี 2543
ฟิลิปปินส์เคยได้ฉายา “คนป่วยแห่งอาเซียน” แต่หลังจากประชาธิปไตยเข้มแข็ง ประธานาธิบดีอาคิโนก็ประกาศว่าฟิลิปปินส์ไม่ใช่คนป่วยอีกต่อไปแล้ว หันไปดูประเทศรอบบ้าน พม่าที่เคยตกอยู่ใต้เผด็จการทหารยาวนานกำลังจะก้าวกระโดด ลาวที่คนไทยเคยเยาะเย้ยว่าไม่มีทางรถไฟ ก็กำลังจะสร้างรถไฟความเร็วสูง เขมรอาจจะหมดยุคฮุนเซ็น แต่ก็เปลี่ยนแปลงด้วยการเลือกตั้ง
ประเทศที่เคยได้ฉายาคนป่วยแห่งเอเชียคือจีน แต่นานมากแล้ว น่าสังเกตว่าหลายประเทศที่มีปัญหา เคยมีอารยะธรรมรุ่งโรจน์ในอดีต กรีซต้องกู้เงินเยอรมัน ซึ่งสมัยกรุงเอเธนส์ยังเป็นคนป่า ใช่ไหมความภาคภูมิใจในชาติแบบยึดติดทำให้ปิดกั้นตัวเอง
คนไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร คนไทยเหนือกว่าชาติใดในโลกอยู่แล้ว
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 25 คน
มติชนพาดหัวข่าวเฉียบคม “หัวร่อมิได้ ร่ำไห้มิออก! ประเทศไทยคว่ำ 2 ล้านล้าน อินโดฯ เดินหน้า 14 ล้านล้าน” พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งโครงการ 2 ล้านล้านของไทยจบไปแล้ว ต่อให้นายกฯ คนกลางก็ทำไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า “เงินกู้ เงินนอกงบประมาณ” เป็น “เงินแผ่นดิน” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ฉะนั้น ต่อไป “เงินกู้” ต้องอยู่ในงบประมาณประจำปี รัฐบาลไหนก็กู้เงินก้อนใหญ่ไม่ได้
ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ หากยังมีความขัดแย้งในแนวคิดทางเศรษฐกิจ เช่นที่ตุลาการถาม ทำไมไม่ราดยางถนนลูกรังให้หมดก่อน
จำได้ไหม ที่ศาลปกครองสั่งระงับประมูล 3G เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ศาลบอกว่าไม่มี 3G ไม่เห็นเป็นไร ก็มี 2G ใช้อยู่ทั่วประเทศแล้ว
จำได้ไหม ที่ศาลปกครองสั่งระงับ 76 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตามคำฟ้องของสมาคมต่อต้านโลกร้อน ที่อ้างว่ากรมควบคุมมลพิษอนุมัติโดยไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งที่โครงการส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาก่อมลภาวะ
ขบวนการ “โค่นระบอบทักษิณ” ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน ไม่ได้บอกแค่ต้องการต่อต้านอำนาจนิยม คอร์รัปชั่น แต่ยังต่อต้าน “ทุนสามานย์” สวนทาง “ทักษิโณมิกส์” ซึ่งถ้าว่าตามเนื้อผ้า วิธีคิดแบบทักษิณแม้ว่าจะทำให้เติบโตก้าวกระโดด แต่ก็โลดโผนสุ่มเสี่ยง ขณะที่พวกเอ็นจีโอโนมิกส์ ก็สุดโต่งไปอีกทาง ต่อต้านโลกาภิวัตน์จนปฏิเสธหมด
ที่แย่กว่านั้นคือการขุดหาเรื่องโจมตีทักษิณโดยไม่แยกแยะ เช่น “ขายชินขายชาติ” ไม่พอใจผลประโยชน์ทับซ้อนก็ว่าไปอย่าง แต่สร้างกระแสคลั่งชาติด่าทอ “สิงคโปร์โตก”
ไม่เห็นด้วยกับการแปรรูป ปตท.ก็ไปขุดผู้เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยได้หุ้นจอง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของนักเล่นหุ้น “ขาใหญ่” มาใส่สีตีไข่จนวันนี้ ผ่านรัฐประหาร ผ่านรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ยังมีพวกเป่านกหวีดจำนวนมากเชื่อว่าทักษิณถือหุ้นใหญ่ ปตท. บานปลายไปเป็น “ทวงคืน ปตท.” สติเฟื่องถึงขั้นเห็นประเทศไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน
คุณบรรยง พงษ์พานิช บอกว่าถ้ายังขัดขวางการให้สัมปทานขุดเจาะสำรวจ (โดยเชื่อว่าเป็นเศรษฐีน้ำมันต้องโก่งราคาสูง) ประเทศก็จะมีก๊าซธรรมชาติใช้อีกราว 7 ปีเท่านั้น (ว่าแล้วคุณบรรยงก็ถูกพวกทวงคืนเผาพริกเผาเกลือ หาว่าเป็นสมุนทักษิณ ทั้งที่เขียนด่าทักษิณคอร์รัปชั่นอยู่ทุกวัน)
แย่ไปกว่านั้น แหล่งทรัพยากรสำคัญคือพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชาในทะเล ก็เป็นไปได้ว่าต้องรออีก 20-30 ปี ให้คนรุ่นนี้ตายก่อน เพราะคดีปราสาทพระวิหาร ที่ไม่มีฝอยหมายังขี้ แค่แถลงการณ์ร่วมให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตามพื้นที่มติคณะรัฐมนตรีปี 2505 เอามาปลุกคลั่งชาติบานปลายจนกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ขนาดรัฐบาล ปชป.ยังโดนข้อหา “ขายชาติ” จากการทำ MOU ปี 2543
ฟิลิปปินส์เคยได้ฉายา “คนป่วยแห่งอาเซียน” แต่หลังจากประชาธิปไตยเข้มแข็ง ประธานาธิบดีอาคิโนก็ประกาศว่าฟิลิปปินส์ไม่ใช่คนป่วยอีกต่อไปแล้ว หันไปดูประเทศรอบบ้าน พม่าที่เคยตกอยู่ใต้เผด็จการทหารยาวนานกำลังจะก้าวกระโดด ลาวที่คนไทยเคยเยาะเย้ยว่าไม่มีทางรถไฟ ก็กำลังจะสร้างรถไฟความเร็วสูง เขมรอาจจะหมดยุคฮุนเซ็น แต่ก็เปลี่ยนแปลงด้วยการเลือกตั้ง
ประเทศที่เคยได้ฉายาคนป่วยแห่งเอเชียคือจีน แต่นานมากแล้ว น่าสังเกตว่าหลายประเทศที่มีปัญหา เคยมีอารยะธรรมรุ่งโรจน์ในอดีต กรีซต้องกู้เงินเยอรมัน ซึ่งสมัยกรุงเอเธนส์ยังเป็นคนป่า ใช่ไหมความภาคภูมิใจในชาติแบบยึดติดทำให้ปิดกั้นตัวเอง
คนไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร คนไทยเหนือกว่าชาติใดในโลกอยู่แล้ว
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น