วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

PSแชมป์รายได้สูงสุด แลนด์ฯยึดบัลลังก์กำไร "แสนสิริ" ขอครองเบอร์หนึ่งยอดขาย

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: PSแชมป์รายได้สูงสุด
แลนด์ฯยึดบัลลังก์กำไร
"แสนสิริ" ขอครองเบอร์หนึ่งยอดขาย
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 03 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 15 คน
ผลงานปี 2556 "PS" ครองแชมป์รายได้สูงสุด 39,041.1 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ LH ยังยึดบัลลังก์อันดับหนึ่ง 6,478 ล้านบาท ส่วน SIRI แม้รายได้และกำไรยังไม่เป็นที่หนึ่ง แต่ยอดขาย (พรีเซล) ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง 42,168 ล้านบาท



จากผลการดำเนินงานในปี 2556 ของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (พัฒนาที่อยู่อาศัย) ที่ประกาศออกมาล่าสุด พบว่าบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ยังคงเป็นแชมป์รายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดย PS มีรายได้รวม 39,041.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,900.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.8% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 11,824.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.8% เมื่อเทียบกับรายได้อสังหาริมทรัพย์ของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม

ทั้งนี้ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลกำไรสุทธิในปี 2556 ของ PS สูงถึง 5,801.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 3,898 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ PS มีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากในปี 2556 มาจากการปรับกลยุทธ์และการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทในช่วงกลางปี 2556 ที่ผ่านมา ทำให้สามารถขยายตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าได้ดีขึ้น การบริหารงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้ PS ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2556 หุ้นละ 0.85 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 11 มี.ค. 2557 และจ่ายปันผลวันที่ 15 พ.ค. 2557

นอกจากนี้ ในปี 2557 นี้ PS ยังตั้งเป้าหมายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 30-40 โครงการ มูลค่าประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายจะมียอดขาย (พรีเซล) 4.1-4.5 หมื่นล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 4-4.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะรับรู้ในปี 2557 อยู่ถึง 2.08 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด 3.78 หมื่นล้านบาท

ขณะที่บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ในปี 2556 ยังรักษาแชมป์ทำกำไรสุทธิสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยผลการดำเนินงานปี 2556 มีกำไรสุทธิ 6,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,682 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการขายสิทธิในการซื้อที่ดินก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 202 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 35.8% มีรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น 18.9% เป็น 2,136 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้นเป็น 41.3% ส่งผลทำให้ในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 27,850 .48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 26,714.47 ล้านบาท

โดย LH ประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2556 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วจำนวน 0.25 บาท ดังนั้นเหลือจ่ายเพิ่มเติมอีกหุ้นละ 0.15 บาท ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 เม.ย. 2557 และจ่ายปันผลในวันที่ 22 พ.ค. 2557

ส่วนบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ในปี 2556 เป็นแชมป์ยอดขาย (พรีเซล) สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดย SIRI สามารถทำยอดขาย ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ 42,168 ล้านบาท แต่ในแง่การทำรายได้ และกำไรสุทธิ ยังเป็นรองมากจาก PS และ LH ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา SIRI มีรายได้รวม 28,987 ล้านบาท ลดลง 4% จาก 30,087 ล้านบาทในปี 2555 มีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายโครงการและรายได้จากโครงการเพื่อเช่า ส่งผลทำให้ปี 2556 มีกำไรสุทธิ 1,930 ล้านบาท ลดลง 34% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,938 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นอกจากนี้ SIRI ยังประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 มี.ค. 2557 และจ่ายปันผลในวันที่ 27 พ.ค. 2557

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า สำหรับปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 34,000 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 54,286 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ยาวไปถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยแบ่งเป็นยอดรอรับรู้รายได้ของปี 2557 แล้วประมาณ 19,969 ล้านบาท และรอรับรู้รายได้ในปี 2558 แล้วประมาณ 23,154 ล้านบาท โดยในปี 2557บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการปรับตัวเพื่อต่อยอดความสำเร็จและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและองค์กรในระยะยาว หลังจากที่บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มสัดส่วนความสามารถในการทำกำไร

โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในการและบริหารอย่างต่อเนื่อง

ด้านบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ผลการดำเนินงานปี 2556 มีรายได้รวม 14,400.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 13,400.50 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,328.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.46% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 2,229.16 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 920.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.11% อยู่ที่ 14,346.67 ล้านบาท จากปี 2555 ที่มีรายได้ 13,325.37 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรจากการขายเพิ่มขึ้น 0.36% เป็นโครงการที่สร้างแล้วเสร็จในปี 2556 จำนวน 9 โครงการ ส่วนรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการ เพิ่มขึ้น 97.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.15%

อย่างไรก็ตาม LPN ประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.84 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.26 บาท ดังนั้นจึงเหลือจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 0.58 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 4 เม.ย. 57 และกำหนดขึ้น XD (วันที่ซื้อหุ้นไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) วันที่ 27 ก.พ. 57 ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2556 มียอดขายรอรับรู้ (Backlog) ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาฯที่มีผลประกอบการในปี 2556 เติบโตโดดเด่น โดยผลการดำเนินงานปี 2556บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,307.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.98% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 2,450.05 ล้านบาท เนื่องจากรายได้และกำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น และมีรายได้รวม 19,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,5090 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39% จากปี 2555 ที่มีรายได้ 14,409 ล้านบาท ทั้งนี้ ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 21 เม.ย. 57 และจ่ายปันผลวันที่ 7 พ.ค. 57

บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) หรือ SPALI ผลประกอบการปี 2556 บริษัทมีกําไรสุทธิ 2,882.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนที่มีกําไรสุทธิ 2,743.51 ล้านบาท เนื่องจากมีการขายและโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทำให้ปี 2556 บริษัทมีรายได้จากการโอนฯ 12,322.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,062.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการโอนบ้านและทาวน์เฮาส์ 55% และที่เหลือ 45% เป็นรายได้จากการโอนอาคารชุด อีกทั้งประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.30 บาทแล้ว จึงเหลือจ่ายเงินปันผลงวด 6 เดือนหลังในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 มี.ค. 2557 และจ่ายวันที่ 6 พ.ค. 2557 อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นปี 2556 บริษัทมียอดจ่ายรอโอน (Backlog) 39,230 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยโอนฯในปีนี้ประมาณ 15,584 ล้านบาท และที่เหลือ 23,646 ล้านบาท จะทยอยโอนฯในช่วง 3 ปีข้างหน้า


GLANDกำไรกระฉูด 465 ล้าน

นอกจากนี้ ยังมีอสังหาฯรายกลางและเล็กที่ผลการดำเนินงานปี 2556 ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ที่ประกาศผลการดำเนินงานปี 2556 มีรายได้รวม 3,452.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,353.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 214.26% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม 2,310.93 ล้านบาท และกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์เพิ่ม 58.43 ล้านบาท ส่งผลทำให้ปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ 464.51 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.088 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 58.92 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการโอนขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัย



ANAN-KMC พลิกโชว์กำไร

ขณะที่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN และบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC สามารถพลิกกลับจากขาดทุนเป็นกำไรสุทธิได้ในปี 2556 ที่ผ่านมา โดย ANAN มีรายได้รวม 9,227.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,089.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79.6% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ ปี 2556 เท่ากับ 811.5 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนสุทธิ 199 ล้านบาท ส่วน KMC งวดปี 2556 มีรายได้รวม 905.60 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 174.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 438.65 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 89.46 ล้านบาท

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น