ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ปรับลงทุนออยล์แซนด์
PTTEPรับเงินสดเพิ่ม
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 06 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 7 คน
"PTTEP" ปรับโครงสร้างลงทุนออยล์แซนด์ ช่วยลดความเสี่ยง แถมได้เงินสดเพิ่มอีก 435 ล้านเหรียญสหรัฐ ลั่นปี 57 ปริมาณขายเติบโตขึ้น 11% พุ่งแตะ 3.25 แสนบาร์เรลต่อวัน ขานรับโครงการมอนทารา-ซอติก้าเดินเครื่องผลิต
นายยงยศ ครองพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและกลยุทธ์เทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า สำหรับกรณีทางบริษัทได้ปรับโครงสร้างการลงทุนโครงการ Canada Oil Sands KKD (KKD) จะดำเนินการได้เสร็จประมาณช่วงไตรมาส 3/57 อีกทั้งยังส่งผลให้ทางบริษัทได้รับเงินสดเพิ่มเข้ามาอีกถึงจำนวน 435 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงที่ผ่านมาโครงการออยล์แซนด์ได้ดำเนินการผลิตไปบางส่วนแล้ว แต่ด้วยตัวโครงการที่มีต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับสูง ประกอบกับยังมีปริมาณผลิตไม่มากนัก จึงส่งผลให้โครงการเกิดปัญหาขาดทุน ดังนั้น เมื่อบริษัทปรับโครงสร้างการลงทุนใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ รวมถึงยังช่วยให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในแผนลงทุนระยะ 5 ปี (2557-2561) ปรับลดลงเหลือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่กำหนดไว้ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ โครงการ KKD เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง PTTEP Canada Limited (PTTEPCA) ถือหุ้น 40% และ Statoil Canada Limited (SCL) ถือหุ้น 60% มีพื้นที่ตั้งอยู่ในประเทศแคนาดา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,100 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 5 พื้นที่หลัก ได้แก่ Leismer, Corner, Thornbury, Hangingstone และ South Leismer
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนม.ค. 2557 ทาง PTTEP ได้ประกาศว่า PTTEPCA ได้ลงนามในสัญญาโอนคืนสิทธิหน่วยลงทุนในห้างหุ้นส่วน (PURA) ร่วมกับบริษัท SCL เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือสัดส่วนใน 5 พื้นที่ของโครงการ KKDด้วยการแลกเปลี่ยนการถือสัดส่วน40% ของ PTTEPCA ในแหล่ง Leismer และ Corner (LC) เพื่อให้ได้มาซึ่งสัดส่วน 60% ในแหล่ง Thornbury, Hangingstone และ South Leismer (THSL)
นายยงยศ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2557 ทางบริษัทได้ปรับลดเป้าปริมาณขายทั้งปีมาอยู่ที่ระดับ 3.25 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมกำหนดไว้ 3.37 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากในช่วงปีนี้โครงการมอนทาราที่ออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากพายุ และอาจทำให้มีกำลังผลิตอาจไม่สูงถึงระดับที่ตั้งไว้จำนวน 30,000 บาร์เรลต่อวัน และเลื่อนเดินเครื่องผลิตโครงการซอติก้าในประเทศพม่าออกไปอยู่ช่วงเดือนเม.ย.ปีนี้ จากเดิมกำหนดผลิตภายในช่วงไตรมาส 1/57
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้บริษัทจะมีการปรับลดเป้ายอดขายทั้งปีลง แต่ในแง่ภาพรวมแล้วจะยังคงเติบโตขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดปี 2556 ที่มีปริมาณขายเฉลี่ย 2.92 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากในปี 2557 ทางบริษัทได้เริ่มดำเนินการโครงการซอติก้า ซึ่งมีขนาดกำลังผลิตมากถึง 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยจัดส่งเข้าประเทศพม่า 60 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งมาประเทศไทย 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
อีกทั้งยังได้รับผลบวกของการเดินเครื่องผลิตโครงการมอนทาราเต็มปี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เข้าลงทุนในโครงการ Natuna Sea A ด้วย ส่วนความคืบหน้าแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess ในไทยอีก 2 โครงการ คือ โครงการไพลินและสินภูฮ่อม คาดจะได้ข้อสรุปออกมาภายในช่วงปี 2557
“สำหรับงวดปี 2557 ทางเราเองมองทิศทางราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์โดยรวมจะมีโอกาสทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนเรื่องแผนเข้าซื้อในแหล่งไพลินและสินภูฮ่อม คาดว่าคงจะได้ข้อสรุปออกมากันภายในช่วงปีนี้ โดยน่าจะใช้จำนวนเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก” นายยงยศ กล่าว
PTTEPรับเงินสดเพิ่ม
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 06 มีนาคม 2557
ผู้เข้าชม : 7 คน
"PTTEP" ปรับโครงสร้างลงทุนออยล์แซนด์ ช่วยลดความเสี่ยง แถมได้เงินสดเพิ่มอีก 435 ล้านเหรียญสหรัฐ ลั่นปี 57 ปริมาณขายเติบโตขึ้น 11% พุ่งแตะ 3.25 แสนบาร์เรลต่อวัน ขานรับโครงการมอนทารา-ซอติก้าเดินเครื่องผลิต
นายยงยศ ครองพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและกลยุทธ์เทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า สำหรับกรณีทางบริษัทได้ปรับโครงสร้างการลงทุนโครงการ Canada Oil Sands KKD (KKD) จะดำเนินการได้เสร็จประมาณช่วงไตรมาส 3/57 อีกทั้งยังส่งผลให้ทางบริษัทได้รับเงินสดเพิ่มเข้ามาอีกถึงจำนวน 435 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงที่ผ่านมาโครงการออยล์แซนด์ได้ดำเนินการผลิตไปบางส่วนแล้ว แต่ด้วยตัวโครงการที่มีต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับสูง ประกอบกับยังมีปริมาณผลิตไม่มากนัก จึงส่งผลให้โครงการเกิดปัญหาขาดทุน ดังนั้น เมื่อบริษัทปรับโครงสร้างการลงทุนใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ รวมถึงยังช่วยให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในแผนลงทุนระยะ 5 ปี (2557-2561) ปรับลดลงเหลือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่กำหนดไว้ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ โครงการ KKD เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง PTTEP Canada Limited (PTTEPCA) ถือหุ้น 40% และ Statoil Canada Limited (SCL) ถือหุ้น 60% มีพื้นที่ตั้งอยู่ในประเทศแคนาดา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,100 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 5 พื้นที่หลัก ได้แก่ Leismer, Corner, Thornbury, Hangingstone และ South Leismer
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนม.ค. 2557 ทาง PTTEP ได้ประกาศว่า PTTEPCA ได้ลงนามในสัญญาโอนคืนสิทธิหน่วยลงทุนในห้างหุ้นส่วน (PURA) ร่วมกับบริษัท SCL เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือสัดส่วนใน 5 พื้นที่ของโครงการ KKDด้วยการแลกเปลี่ยนการถือสัดส่วน40% ของ PTTEPCA ในแหล่ง Leismer และ Corner (LC) เพื่อให้ได้มาซึ่งสัดส่วน 60% ในแหล่ง Thornbury, Hangingstone และ South Leismer (THSL)
นายยงยศ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2557 ทางบริษัทได้ปรับลดเป้าปริมาณขายทั้งปีมาอยู่ที่ระดับ 3.25 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมกำหนดไว้ 3.37 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากในช่วงปีนี้โครงการมอนทาราที่ออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากพายุ และอาจทำให้มีกำลังผลิตอาจไม่สูงถึงระดับที่ตั้งไว้จำนวน 30,000 บาร์เรลต่อวัน และเลื่อนเดินเครื่องผลิตโครงการซอติก้าในประเทศพม่าออกไปอยู่ช่วงเดือนเม.ย.ปีนี้ จากเดิมกำหนดผลิตภายในช่วงไตรมาส 1/57
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้บริษัทจะมีการปรับลดเป้ายอดขายทั้งปีลง แต่ในแง่ภาพรวมแล้วจะยังคงเติบโตขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดปี 2556 ที่มีปริมาณขายเฉลี่ย 2.92 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากในปี 2557 ทางบริษัทได้เริ่มดำเนินการโครงการซอติก้า ซึ่งมีขนาดกำลังผลิตมากถึง 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยจัดส่งเข้าประเทศพม่า 60 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งมาประเทศไทย 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
อีกทั้งยังได้รับผลบวกของการเดินเครื่องผลิตโครงการมอนทาราเต็มปี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้เข้าลงทุนในโครงการ Natuna Sea A ด้วย ส่วนความคืบหน้าแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess ในไทยอีก 2 โครงการ คือ โครงการไพลินและสินภูฮ่อม คาดจะได้ข้อสรุปออกมาภายในช่วงปี 2557
“สำหรับงวดปี 2557 ทางเราเองมองทิศทางราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์โดยรวมจะมีโอกาสทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนเรื่องแผนเข้าซื้อในแหล่งไพลินและสินภูฮ่อม คาดว่าคงจะได้ข้อสรุปออกมากันภายในช่วงปีนี้ โดยน่าจะใช้จำนวนเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก” นายยงยศ กล่าว
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น