ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: JASกำไรโตกระฉูด40%
ปลดล็อกคดีหมดอายุความ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 02 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 92 คน
"JAS" โล่งไม่ต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกา หลัง 31 ธ.ค. 56 หมดอายุความคดี ไม่มีเจ้าหนี้รายใดโผล่แสดงตน เดินหน้าจัดตั้งอินฟราฯฟันด์ต้นปี 57 แย้มงบปี 56 กำไรโตกระฉูด 40% โบรกฯคาดพุ่งทะลุ 3 พันล้านบาท
แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า จากกรณีศาลฎีกากลับคำพิพากษาโดยยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางที่ได้ให้ความเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2546 ของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และมีผลทำให้เจ้าหนี้สามารถเรียกร้องให้บริษัทฯชำระหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ คือ วันที่ 17 กันยายน 2545 นั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของอายุความของคดีดังกล่าว ไม่มีเจ้าหนี้รายใดมาแสดงตนและแสดงสิทธิของตนเพื่อยื่นเอกสารขอรับชำระหนี้จาก JAS เลย
โดยส่งผลให้คดีความดังกล่าวหมดอายุความไปโดยปริยาย และถือเป็นการปลดล็อกความกังวลต่อผลกระทบจากคดีดังกล่าวที่จะมีต่อสถานะการเงินของ JAS หากต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกา นอกจากนี้ ยังเป็นการปลดล็อกความกังวลของนักลงทุนที่ก่อนหน้านี้คาดว่ากรณี JAS ต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกาจะมีผลกระทบต่อกำไรและการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ด้วย
ดังนั้น เมื่อมีการปลดล็อกคดีความดังกล่าวแล้ว คาดว่าในช่วงต้นปี 2557 JAS จะเดินหน้าจัดตั้งและจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund : IFF) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาทได้ หลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 และยื่นเอกสารขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว
แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2556 ของ JAS นั้น ในแง่ของกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 40% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 2,136.50 ล้านบาท หลังงวด 9 เดือน ปี 2556 มีกำไรสุทธิแล้ว 2,245.71ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2555 ทั้งปีแล้ว
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ระบุว่า JAS คงเป้าหมายฐานลูกค้าอินเตอร์เน็ต ADSL ของปี 2556 ไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านราย และ FTTx ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2556 คาดว่าธุรกิจปกติของ JAS ยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง โดยจะมีกำไร 792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 3/2556 จากการขยายพื้นที่ให้บริการ FTTx และจำนวนลูกค้า FTTx ที่รอติดตั้งราว 15,000 ราย จะทำให้มีจำนวนลูกค้ารายใหม่ราว 50,000-60,000 ราย หนุนรายได้เพิ่ม 10% จากไตรมาส 3/2556 ส่งผลทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2556 แตะ 3,025 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การขยายโครงข่าย FTTx และพื้นที่ให้บริการ ส่งผลให้มีค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดัน Gross margin เหลือ 58% และ EBITDA margin เหลือ 51%
ขณะที่คงสมมติฐานการประเมินกองทุนฯ มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาท จะทำให้ JAS ได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินหักภาษีและค่าใช้จ่ายราว 25,000-30,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่าต่อหุ้นเพิ่มอีก 0.90 บาท จากมูลค่าเหมาะสม 11.20 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าการจัดตั้งกองทุนฯต้นปี 2557สะท้อนราคาหุ้นและไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากยังไม่รวมในประมาณการ อีกทั้งบริษัทมีฐานะการเงินที่ดี จากอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนปี 2556 ที่คาดว่าจะลดเหลือ 0.2 เท่า และมีฐานกำไรสะสมเพิ่ม 50% เป็น 7,134 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต ขนาดรายการอยู่ที่ 60,000-70,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับอนุมัติจากก.ล.ต. และจำหน่ายหน่วยลงทุนได้ราวต้นปี 2557 หรือประมาณเดือนม.ค.-ก.พ. 2557 ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2556 บริษัทมั่นใจว่าจะทำรายได้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 25% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 10,501.85 ล้านบาท และคาดว่าปี 2556 จะมี EBITDA อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มี EBITDA 4,500 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ ที่คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 220,000 ราย ทำให้ในสิ้นปี 2556 ฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านราย และในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% จากปี 2556 โดยส่วนหนึ่งจะมาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มของผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ราย
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกากลับคำพิพากษาโดยยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพราะทรัพย์สินที่ขายเข้ากองทุนฯ เป็นทรัพย์สินที่เกิดหลังจากศาลยกเลิกแผนฟื้นฟูวันที่ 14 ก.ย. 49 จึงไม่เกี่ยวกับกรณีนี้
ปลดล็อกคดีหมดอายุความ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 02 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 92 คน
"JAS" โล่งไม่ต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกา หลัง 31 ธ.ค. 56 หมดอายุความคดี ไม่มีเจ้าหนี้รายใดโผล่แสดงตน เดินหน้าจัดตั้งอินฟราฯฟันด์ต้นปี 57 แย้มงบปี 56 กำไรโตกระฉูด 40% โบรกฯคาดพุ่งทะลุ 3 พันล้านบาท
แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า จากกรณีศาลฎีกากลับคำพิพากษาโดยยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางที่ได้ให้ความเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2546 ของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และมีผลทำให้เจ้าหนี้สามารถเรียกร้องให้บริษัทฯชำระหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ คือ วันที่ 17 กันยายน 2545 นั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของอายุความของคดีดังกล่าว ไม่มีเจ้าหนี้รายใดมาแสดงตนและแสดงสิทธิของตนเพื่อยื่นเอกสารขอรับชำระหนี้จาก JAS เลย
โดยส่งผลให้คดีความดังกล่าวหมดอายุความไปโดยปริยาย และถือเป็นการปลดล็อกความกังวลต่อผลกระทบจากคดีดังกล่าวที่จะมีต่อสถานะการเงินของ JAS หากต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกา นอกจากนี้ ยังเป็นการปลดล็อกความกังวลของนักลงทุนที่ก่อนหน้านี้คาดว่ากรณี JAS ต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกาจะมีผลกระทบต่อกำไรและการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ด้วย
ดังนั้น เมื่อมีการปลดล็อกคดีความดังกล่าวแล้ว คาดว่าในช่วงต้นปี 2557 JAS จะเดินหน้าจัดตั้งและจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund : IFF) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาทได้ หลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 และยื่นเอกสารขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว
แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2556 ของ JAS นั้น ในแง่ของกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 40% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 2,136.50 ล้านบาท หลังงวด 9 เดือน ปี 2556 มีกำไรสุทธิแล้ว 2,245.71ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2555 ทั้งปีแล้ว
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ระบุว่า JAS คงเป้าหมายฐานลูกค้าอินเตอร์เน็ต ADSL ของปี 2556 ไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านราย และ FTTx ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2556 คาดว่าธุรกิจปกติของ JAS ยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง โดยจะมีกำไร 792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาส 3/2556 จากการขยายพื้นที่ให้บริการ FTTx และจำนวนลูกค้า FTTx ที่รอติดตั้งราว 15,000 ราย จะทำให้มีจำนวนลูกค้ารายใหม่ราว 50,000-60,000 ราย หนุนรายได้เพิ่ม 10% จากไตรมาส 3/2556 ส่งผลทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2556 แตะ 3,025 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การขยายโครงข่าย FTTx และพื้นที่ให้บริการ ส่งผลให้มีค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดัน Gross margin เหลือ 58% และ EBITDA margin เหลือ 51%
ขณะที่คงสมมติฐานการประเมินกองทุนฯ มูลค่า 60,000-70,000 ล้านบาท จะทำให้ JAS ได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินหักภาษีและค่าใช้จ่ายราว 25,000-30,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีมูลค่าต่อหุ้นเพิ่มอีก 0.90 บาท จากมูลค่าเหมาะสม 11.20 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าการจัดตั้งกองทุนฯต้นปี 2557สะท้อนราคาหุ้นและไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากยังไม่รวมในประมาณการ อีกทั้งบริษัทมีฐานะการเงินที่ดี จากอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนปี 2556 ที่คาดว่าจะลดเหลือ 0.2 เท่า และมีฐานกำไรสะสมเพิ่ม 50% เป็น 7,134 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) สำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต ขนาดรายการอยู่ที่ 60,000-70,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับอนุมัติจากก.ล.ต. และจำหน่ายหน่วยลงทุนได้ราวต้นปี 2557 หรือประมาณเดือนม.ค.-ก.พ. 2557 ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2556 บริษัทมั่นใจว่าจะทำรายได้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 25% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 10,501.85 ล้านบาท และคาดว่าปี 2556 จะมี EBITDA อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มี EBITDA 4,500 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ ที่คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 220,000 ราย ทำให้ในสิ้นปี 2556 ฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านราย และในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% จากปี 2556 โดยส่วนหนึ่งจะมาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มของผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 300,000 ราย
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกากลับคำพิพากษาโดยยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพราะทรัพย์สินที่ขายเข้ากองทุนฯ เป็นทรัพย์สินที่เกิดหลังจากศาลยกเลิกแผนฟื้นฟูวันที่ 14 ก.ย. 49 จึงไม่เกี่ยวกับกรณีนี้
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น