ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ปิดมา 3 วัน แล้วยังไง?
คอลัมน์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 5 คน
สิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็น และก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็น ก็ได้เห็นกันไปแล้ว นั่นคือ ปฏิบัติการปิดเมืองหลวงของสุเทพ เทือกสุบรรณ
ผ่านครบมา 3 วันแล้ว กระทบกระทั่งกันเพียงเล็กน้อย ไม่เกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นให้ทหารออกมาปฏิวัติ การจราจรของประชาชนติดขัดบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นอัมพาต เดินทางไปไหนไม่ได้
หน่วยราชการก็ยังพอทำงานได้เป็นปกติ แม้จะถูกปิดล้อมรบกวน แต่ก็สามารถจะเคลื่อนย้ายที่ทำงานไปที่อื่นได้ และข้าราชการส่วนที่มาทำงานไม่ได้ ก็ยังสามารถนั่งทำงานอยู่ที่บ้านได้
ตลาดหุ้นก็ยังพอไปได้ครับ 3 วันทำการ แทนที่หุ้นจะถูกถล่มทลาย กลับปรับตัวสวนกระแสขึ้นมาได้ 21 จุด เงินบาทที่เคยอ่อนยวบยาบทะลุ 33 บาท/ดอลลาร์ไปแล้ว ก็แข็งค่าขึ้นมาอยู่ในระดับ 32.80/32.90 บาท
ถามว่า ยึดเมืองหลวงไปแล้ว 3 วัน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดังปรากฏ แล้วไงต่อ! กปปส.จะเดินหน้ากดดันรัฐบาลให้ลาออก ตั้งนายกฯคนดี และสภาคนดีต่อไปอย่างไร
นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐบาลจะลาออกก็ลาไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ (ที่สุมหัวร่างกันมา) กำหนดล็อกให้รัฐบาลรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน
ถ้ารัฐบาลลาออกก่อน ก็คงหนีไม่พ้นจะโดนมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีกอย่างไม่ต้องสงสัย
เรียกว่ามีแต่โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ถ้าไม่ลาออกก็โดนบีบจากกปปส.ซึ่งนับวันจะประกาศยกระดับการต่อสู้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ายอมลาออกก็คงจะโดนกระบวนการสมคบคิดเล่นงานมาตรา 157 แน่นอน ตามยุทธศาสตร์ล้างเผ่าพันธุ์ระบอบทักษิณ
ส่วนจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก็ไม่มีกฎหมายใดรองรับไว้ให้อีก เพราะเมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯและกำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.เอาไว้แล้ว
กฎหมายรัฐธรรมนูญ(ที่สุมหัวกันยกร่างมา) ก็ล็อกเอาไว้อีกว่า กกต.จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรืออย่างช้าภายในไม่เกิน 60 วัน
ยกเว้นมีเหตุภัยพิบัติหรือเหตุจากการจลาจล
แต่นี่ไม่มีเหตุจากภัยพิบัติแน่นอน เหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการจลาจล ก็มีเพียงแค่ 8 จังหวัดภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร (ซึ่งก็รับสมัครได้ครบถ้วนทั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและส.ส.เขตเลือกตั้ง)
ส่วนที่เหลืออีก 68 จังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางก็ยังเปิดรับสมัครได้สบายบรื๋อ เรียกว่าพื้นที่ฝ่ายข้างมากพร้อมแล้วสำหรับจัดการเลือกตั้ง
รัฐธรรมนูญ (ที่สุมหัวร่างกันมา) ยังมีบทบัญญัติผ่อนปรนให้มีการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันสำหรับพื้นที่ซึ่งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้เอาไว้ด้วย
ข้อเรียกร้องให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ว่าจากฝ่ายใด จึงมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก
รัฐบาลเหลือภูมิคุ้มกันเพียงอย่างเดียว คือ การยึดกุมความถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่ยังมีฤทธิ์ ออกอาละวาดปิดบ้าน ยึดเมืองกันได้ทุกวันนี้ ก็เพราะกระบวนการยุติธรรมอ่อนแอ
อุ้มชูกฎหมู่ให้เป็นกฎหมายอยู่ได้เท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อรัฐบาลไม่ยอมลาออกให้มีระบอบการปกครองอันไม่พึงประสงค์เข้ามา และไม่ยอมเลื่อนการเลือกตั้ง (เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดให้ทำได้)
กปปส.ของสุเทพก็ต้องยกระดับความรุนแรงในการต่อสู้เพิ่มขึ้นๆ โดยไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ อีกต่อไปแล้ว
เนื่องจากมีกระบวนการยุติธรรมลำเอียงให้ท้ายโดยตลอด
ตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรีก็ทำมาแล้ว ล่าสุดก็ประกาศจะจับตัวนายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีที่หมายหัวไว้อีก 7-8 คน
สุเทพเขาเป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่จะทำอะไรก็ได้ไปแล้ว
ผมเองก็อยากเห็น นายกฯหรือรัฐมนตรีสักรายสองราย ถูกสุเทพจับเหมือนกัน เพื่อจะได้พิสูจน์ความเสื่อมทรามของสถาบันยุติธรรมในประเทศนี้
คอลัมน์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 5 คน
สิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็น และก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็น ก็ได้เห็นกันไปแล้ว นั่นคือ ปฏิบัติการปิดเมืองหลวงของสุเทพ เทือกสุบรรณ
ผ่านครบมา 3 วันแล้ว กระทบกระทั่งกันเพียงเล็กน้อย ไม่เกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นให้ทหารออกมาปฏิวัติ การจราจรของประชาชนติดขัดบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นอัมพาต เดินทางไปไหนไม่ได้
หน่วยราชการก็ยังพอทำงานได้เป็นปกติ แม้จะถูกปิดล้อมรบกวน แต่ก็สามารถจะเคลื่อนย้ายที่ทำงานไปที่อื่นได้ และข้าราชการส่วนที่มาทำงานไม่ได้ ก็ยังสามารถนั่งทำงานอยู่ที่บ้านได้
ตลาดหุ้นก็ยังพอไปได้ครับ 3 วันทำการ แทนที่หุ้นจะถูกถล่มทลาย กลับปรับตัวสวนกระแสขึ้นมาได้ 21 จุด เงินบาทที่เคยอ่อนยวบยาบทะลุ 33 บาท/ดอลลาร์ไปแล้ว ก็แข็งค่าขึ้นมาอยู่ในระดับ 32.80/32.90 บาท
ถามว่า ยึดเมืองหลวงไปแล้ว 3 วัน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดังปรากฏ แล้วไงต่อ! กปปส.จะเดินหน้ากดดันรัฐบาลให้ลาออก ตั้งนายกฯคนดี และสภาคนดีต่อไปอย่างไร
นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐบาลจะลาออกก็ลาไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ (ที่สุมหัวร่างกันมา) กำหนดล็อกให้รัฐบาลรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน
ถ้ารัฐบาลลาออกก่อน ก็คงหนีไม่พ้นจะโดนมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีกอย่างไม่ต้องสงสัย
เรียกว่ามีแต่โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ถ้าไม่ลาออกก็โดนบีบจากกปปส.ซึ่งนับวันจะประกาศยกระดับการต่อสู้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ายอมลาออกก็คงจะโดนกระบวนการสมคบคิดเล่นงานมาตรา 157 แน่นอน ตามยุทธศาสตร์ล้างเผ่าพันธุ์ระบอบทักษิณ
ส่วนจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก็ไม่มีกฎหมายใดรองรับไว้ให้อีก เพราะเมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯและกำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.เอาไว้แล้ว
กฎหมายรัฐธรรมนูญ(ที่สุมหัวกันยกร่างมา) ก็ล็อกเอาไว้อีกว่า กกต.จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรืออย่างช้าภายในไม่เกิน 60 วัน
ยกเว้นมีเหตุภัยพิบัติหรือเหตุจากการจลาจล
แต่นี่ไม่มีเหตุจากภัยพิบัติแน่นอน เหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการจลาจล ก็มีเพียงแค่ 8 จังหวัดภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร (ซึ่งก็รับสมัครได้ครบถ้วนทั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและส.ส.เขตเลือกตั้ง)
ส่วนที่เหลืออีก 68 จังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางก็ยังเปิดรับสมัครได้สบายบรื๋อ เรียกว่าพื้นที่ฝ่ายข้างมากพร้อมแล้วสำหรับจัดการเลือกตั้ง
รัฐธรรมนูญ (ที่สุมหัวร่างกันมา) ยังมีบทบัญญัติผ่อนปรนให้มีการจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันสำหรับพื้นที่ซึ่งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้เอาไว้ด้วย
ข้อเรียกร้องให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่ว่าจากฝ่ายใด จึงมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก
รัฐบาลเหลือภูมิคุ้มกันเพียงอย่างเดียว คือ การยึดกุมความถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่ยังมีฤทธิ์ ออกอาละวาดปิดบ้าน ยึดเมืองกันได้ทุกวันนี้ ก็เพราะกระบวนการยุติธรรมอ่อนแอ
อุ้มชูกฎหมู่ให้เป็นกฎหมายอยู่ได้เท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อรัฐบาลไม่ยอมลาออกให้มีระบอบการปกครองอันไม่พึงประสงค์เข้ามา และไม่ยอมเลื่อนการเลือกตั้ง (เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดให้ทำได้)
กปปส.ของสุเทพก็ต้องยกระดับความรุนแรงในการต่อสู้เพิ่มขึ้นๆ โดยไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ อีกต่อไปแล้ว
เนื่องจากมีกระบวนการยุติธรรมลำเอียงให้ท้ายโดยตลอด
ตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรีก็ทำมาแล้ว ล่าสุดก็ประกาศจะจับตัวนายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีที่หมายหัวไว้อีก 7-8 คน
สุเทพเขาเป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่จะทำอะไรก็ได้ไปแล้ว
ผมเองก็อยากเห็น นายกฯหรือรัฐมนตรีสักรายสองราย ถูกสุเทพจับเหมือนกัน เพื่อจะได้พิสูจน์ความเสื่อมทรามของสถาบันยุติธรรมในประเทศนี้
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น