ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: นิวส์เวฟ
คอลัมน์ วันอังคารที่ 07 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 18 คน
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 7 ม.ค. 2557 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,230.84 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.22จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.3หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนแบบสุดโต่ง โดยปิดภาคเช้าติดลบไปถึง 13 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ภาคบ่ายหนังกลายเป็นคนละม้วน ภาพรวมตลาดเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จนสุดท้ายกลับมาปิดบวกอยู่ที่บริเวณ1,230 จุด
ฟากนักลงทุนต่างชาติปรับสถานะเข้าซื้อสุทธิไปถึง 1,343 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่เก็บอีก 801 ล้านบาท ขณะที่ขาเทขายกลายเป็นหน้าที่ของสถาบันซึ่งสาดขายสุทธิ 1,683 ล้านบาท และรายย่อยแจมขายอีก 461 ล้านบาท
หุ้น AIE กลายเป็นผู้รับเคราะห์จากความผันผวนของภาวะตลาด ซึ่งโดนถล่มกันตั้งแต่ช่วงเริ่มเปิดเทรด โดยทำราคาเปิดเพียงแค่ 4.30 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าเสนอขายหุ้นไอพีโอ 4.75 บาท และปิดภาคเช้าที่ 4.16 บาท
ขณะที่ช่วงบ่ายหลายฝ่ายต่างมองว่า ราคาหุ้นน่าจะตีตื้นฟื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่ที่ไหนได้ “เกมดันพลิก” ราคาดิ่งลงหนักกว่าเดิมเสียอีก จนสุดท้ายปิดลบอยู่ที่ 3.54 บาท ปรับลงไปถึง 25% เลยกลายเป็นฝันร้ายของคนที่จองซื้อหุ้นไอพีโอกันไป
ซึ่งหากนักลงทุนยังมี AIE อยู่ในมือและไม่ได้ตัดใจเทขายไปตั้งแต่เมื่อวาน คำแนะนำที่ดีสุดก็คงขอให้อดทนถือไว้ก่อนหรือเข้าซื้อเพิ่มเพื่อดึงต้นทุนให้ต่ำลงมา เพราะเอาจริงๆ แล้ว AIE จัดเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีน่าสนใจ แถมยังมีออเดอร์งานลูกค้าเข้ามาล่วงหน้าแล้วตลอดทั้งปี รวมถึงยังเป็นข่าวดีต่อนักลงทุนที่พลาดจองช่วงไอพีโอ เพราะได้โอกาสเหมาะต่อการเก็บหุ้นในช่วงราคาแสนถูก
หุ้น ADVANC ดีดฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องมาแล้วถึง 2 วันทำการ โดยเมื่อวานปิดบวก 201 บาท เพิ่มขึ้นอีกว่า 2% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหุ้น ADVANC ได้ถอยลงไปหนักเป็นพิเศษ จึงถึงเวลาแล้วที่หุ้นจะเริ่มรีบาวด์คืนชีพกลับมาบ้าง
ดังนั้น หากใครกำลังมองหาหุ้นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม แถมยังจ่ายปันผลหนัก ก็คงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า ADVANC กันแล้ว เนื่องจากมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิเลยทีเดียว
หุ้น MINT แม้ซัดปิดบวก 20.10 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 7% แต่ยังคงเตือนให้ระมัดระวังถึงเทขายที่พร้อมสาดออกมาอยู่เสมอ เพราะความกังวลปัญหาการเมือง ยังถือเป็นปัจจัยหลักกดดันราคาหุ้นกลุ่มนี้อยู่มาก
เช่นเดียวกับหุ้น AOT แม้ผลงานอดีตช่วงที่ผ่านมา จะโชว์ฟอร์มร้อนแรงทำกำไรเติบโตมหาศาล แต่ปีนี้เรียกได้ว่า ต้องเผชิญความท้าทายเต็มกำลัง และถือเป็นบทพิสูจน์ฝีมือผู้บริหารคนใหม่ “เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย” อย่างแท้จริง ที่ต้องพบกับงานหินตั้งแต่ช่วงต้นปี
หุ้น SAMART มีข่าวดีน่าสนใจไม่เบา เพราะมีแนวโน้มได้รับผลประโยชน์จากกระแสทีวีดิจิตอล โดยล่าสุดผู้บริหาร “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” ออกมาประกาศกันเลยว่า งวดปี 57 ทางบริษัทได้ตั้งเป้าหมายขายเสาอากาศและกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลสูงกว่า 1.5 ล้านกล่อง
งานนี้ ใครชิงทำตลาดก่อนยิ่งได้เปรียบ เพราะทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า ตลาดกล่องรับสัญญาณเป็นสินค้าที่ลงทุนน้อยแต่สร้างกำไรสูงมาก ซึ่งหาก SAMART ทำยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จริง รับรองงบปี 57 มีลุ้นเติบโตได้ดีต่อเนื่องไปอีกปีแน่
หุ้น IFEC เมื่อวานประเดิมติดคุก Cash Balance เป็นวันแรก ราคาหุ้นในกระดานไม่ต้องเดาก็รู้คำตอบ ถูกแรงเทขายเพียบจนปิดเหลือเพียง 3.94 บาท ปรับลดลงไปกว่า 7%
งานนี้ กว่า IFEC จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกรอบ ก็คงต้องใช้ระยะเวลาอีกนานน่าดู เนื่องจากกว่าหุ้นจะพ้นกำหนดโทษ Cash Balance อยู่ตั้งโน่นประมาณช่วงกลางเดือนก.พ. ฉะนั้น ใครที่เข้าไปเทรดจนติดดอยไปก็ขอให้ทบทวนพิจารณากันให้ดีว่า จะเลือกจัดการอย่างไรต่อ
คอลัมน์ วันอังคารที่ 07 มกราคม 2557
ผู้เข้าชม : 18 คน
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันอังคารที่ 7 ม.ค. 2557 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,230.84 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.22จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.3หมื่นล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนแบบสุดโต่ง โดยปิดภาคเช้าติดลบไปถึง 13 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ภาคบ่ายหนังกลายเป็นคนละม้วน ภาพรวมตลาดเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จนสุดท้ายกลับมาปิดบวกอยู่ที่บริเวณ1,230 จุด
ฟากนักลงทุนต่างชาติปรับสถานะเข้าซื้อสุทธิไปถึง 1,343 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่เก็บอีก 801 ล้านบาท ขณะที่ขาเทขายกลายเป็นหน้าที่ของสถาบันซึ่งสาดขายสุทธิ 1,683 ล้านบาท และรายย่อยแจมขายอีก 461 ล้านบาท
หุ้น AIE กลายเป็นผู้รับเคราะห์จากความผันผวนของภาวะตลาด ซึ่งโดนถล่มกันตั้งแต่ช่วงเริ่มเปิดเทรด โดยทำราคาเปิดเพียงแค่ 4.30 บาทเท่านั้น ต่ำกว่าเสนอขายหุ้นไอพีโอ 4.75 บาท และปิดภาคเช้าที่ 4.16 บาท
ขณะที่ช่วงบ่ายหลายฝ่ายต่างมองว่า ราคาหุ้นน่าจะตีตื้นฟื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่ที่ไหนได้ “เกมดันพลิก” ราคาดิ่งลงหนักกว่าเดิมเสียอีก จนสุดท้ายปิดลบอยู่ที่ 3.54 บาท ปรับลงไปถึง 25% เลยกลายเป็นฝันร้ายของคนที่จองซื้อหุ้นไอพีโอกันไป
ซึ่งหากนักลงทุนยังมี AIE อยู่ในมือและไม่ได้ตัดใจเทขายไปตั้งแต่เมื่อวาน คำแนะนำที่ดีสุดก็คงขอให้อดทนถือไว้ก่อนหรือเข้าซื้อเพิ่มเพื่อดึงต้นทุนให้ต่ำลงมา เพราะเอาจริงๆ แล้ว AIE จัดเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีน่าสนใจ แถมยังมีออเดอร์งานลูกค้าเข้ามาล่วงหน้าแล้วตลอดทั้งปี รวมถึงยังเป็นข่าวดีต่อนักลงทุนที่พลาดจองช่วงไอพีโอ เพราะได้โอกาสเหมาะต่อการเก็บหุ้นในช่วงราคาแสนถูก
หุ้น ADVANC ดีดฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องมาแล้วถึง 2 วันทำการ โดยเมื่อวานปิดบวก 201 บาท เพิ่มขึ้นอีกว่า 2% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหุ้น ADVANC ได้ถอยลงไปหนักเป็นพิเศษ จึงถึงเวลาแล้วที่หุ้นจะเริ่มรีบาวด์คืนชีพกลับมาบ้าง
ดังนั้น หากใครกำลังมองหาหุ้นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม แถมยังจ่ายปันผลหนัก ก็คงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า ADVANC กันแล้ว เนื่องจากมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิเลยทีเดียว
หุ้น MINT แม้ซัดปิดบวก 20.10 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 7% แต่ยังคงเตือนให้ระมัดระวังถึงเทขายที่พร้อมสาดออกมาอยู่เสมอ เพราะความกังวลปัญหาการเมือง ยังถือเป็นปัจจัยหลักกดดันราคาหุ้นกลุ่มนี้อยู่มาก
เช่นเดียวกับหุ้น AOT แม้ผลงานอดีตช่วงที่ผ่านมา จะโชว์ฟอร์มร้อนแรงทำกำไรเติบโตมหาศาล แต่ปีนี้เรียกได้ว่า ต้องเผชิญความท้าทายเต็มกำลัง และถือเป็นบทพิสูจน์ฝีมือผู้บริหารคนใหม่ “เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย” อย่างแท้จริง ที่ต้องพบกับงานหินตั้งแต่ช่วงต้นปี
หุ้น SAMART มีข่าวดีน่าสนใจไม่เบา เพราะมีแนวโน้มได้รับผลประโยชน์จากกระแสทีวีดิจิตอล โดยล่าสุดผู้บริหาร “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” ออกมาประกาศกันเลยว่า งวดปี 57 ทางบริษัทได้ตั้งเป้าหมายขายเสาอากาศและกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลสูงกว่า 1.5 ล้านกล่อง
งานนี้ ใครชิงทำตลาดก่อนยิ่งได้เปรียบ เพราะทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า ตลาดกล่องรับสัญญาณเป็นสินค้าที่ลงทุนน้อยแต่สร้างกำไรสูงมาก ซึ่งหาก SAMART ทำยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จริง รับรองงบปี 57 มีลุ้นเติบโตได้ดีต่อเนื่องไปอีกปีแน่
หุ้น IFEC เมื่อวานประเดิมติดคุก Cash Balance เป็นวันแรก ราคาหุ้นในกระดานไม่ต้องเดาก็รู้คำตอบ ถูกแรงเทขายเพียบจนปิดเหลือเพียง 3.94 บาท ปรับลดลงไปกว่า 7%
งานนี้ กว่า IFEC จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกรอบ ก็คงต้องใช้ระยะเวลาอีกนานน่าดู เนื่องจากกว่าหุ้นจะพ้นกำหนดโทษ Cash Balance อยู่ตั้งโน่นประมาณช่วงกลางเดือนก.พ. ฉะนั้น ใครที่เข้าไปเทรดจนติดดอยไปก็ขอให้ทบทวนพิจารณากันให้ดีว่า จะเลือกจัดการอย่างไรต่อ
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น