แฉเบื้องหลัง! โมนิก้าและทีมงาน
แฉเบื้องหลัง! โมนิก้าและทีมงาน
*หากนักลงทุนเข้าใจเกมหุ้นที่ดำเนินมาเกือบเดือน ย่อมเข้าใจถึงอาการร้อนรนขาย หุ้นอย่างหนักหน่วงของ “กองทุน” และ “ปอบผีฟ้า” ซึ่งเป็นพฤติกรรมเดิมๆ ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามตั้งสติก่อนสตาร์ททุกครั้งว่า ทั้งหมดเป็นแค่มันนี่เกม ใครคุมเกมได้ดีกว่ากัน คนนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งมีการวางระดับดัชนีไว้ที่ระดับ 1,500 จุดเป็นจุดรวมพลที่แรกนะค่ะ
*ส่วนจุดร่วมพลที่ 2 อยู่ที่บริเวณ 1,450 จุด และจุดรวมพลสุดท้ายอยู่ที่ 1,400 จุด ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อกันมาเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า คนสุดท้ายที่รับสารจะเป็นใคร? “โมนิก้า” จึงขอสนับสนุนการเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนรายย่อย เพราะแสดงให้เห็นวุฒิภาวะทางการลงทุนสูงขึ้น และยังเป็นการตอกหน้าพวกศาสดาจอมปลอม ซึ่งชอบโยนสาเหตุหุ้นตกหนักมาจากคนนั้น คนนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ
*หากถามทางฟาก “ปอบผีฟ้า” คำตอบที่ได้จากปากคนเหล่านี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเฝ้าระวังแรงขายของกองทุนในประเทศ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากองทุนในประเทศซื้อหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 1.80 แสนล้านบาท แถมในช่วง 2 เดือนแรกของปี 58 ยังซื้อต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท จังหวะนี้ถึงเห็นกองทุนถล่มเทขายหุ้นออกมาอย่างหนักหน่วง และกลุ่มที่ซวยสุดๆ น่าจะเป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะพวกนี้อมไว้ในพอร์ตค่อนข้างเยอะนะคะ
*นอกจากนี้ยังพาดพิงไปถึง “ฝรั่งตาน้ำข้าว” โดยใช้ยุทธวิธี “ตีวัวกระทบคราด” ซึ่งออกตัวแบบหยอดหน้าเน็ตในลักษณะที่ว่าทันทีที่ ธปท. ประกาศปรับลดดอกเบี้ย ความคาดหวังนักลงทุนต่างชาติจะหวนกลับเข้ามาซื้อสุทธิถึงริบรี่ลงในทันที ซึ่งเป็นคำพูดที่ดูดี มีเหตุผลไปหมดเสียทุกอย่าง ใครได้ยินเรื่องออกมาลักษณะนี้ ย่อมจะเกิดอาการเคลิบเคลิ้มเป็นธรรมดานะจะบอกให้
*เผอิญคนอย่าง “โมนิก้า” เชื่อมั่นใจตัวเลขมากกว่าคำพูด วานนี้เหลือบตาไป เห็นยอดขายกองทุน 2.20 พันล้านบาท และปอบผีฟ้าสาดลงมาอีก 800 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จตั้งต้นเดือนมี.ค. รายแรกเขวี้ยงทิ้ง 7.33 พันล้านบาท ส่วนรายหลังทิ้งออกมา 8.86 พันล้านบาท ย่อมทำให้สาวมาดมั่นอย่างตัวอีฉันสะอิดสะเอียนกับการแสดงความคิดเห็นที่โยนความเลวให้กับคนอื่นรับไปเต็มๆ เจ้าค่ะ
*วันนี้เหมือนกับการตอกย้ำให้นักเล่นรายย่อยได้รับรู้ว่า อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ่งที่เห็นอาจเป็นตรงข้ามกับสิ่งที่ได้ยินมา และวันนี้คงได้เห็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้หุ้นหล่นลงมาปิดที่ 1,512.84 จุด ลบไป 2.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.37 หมื่นล้านบาท กันเสียที!...ในเมื่อตัวเลขมันบอกไว้อย่างนี้ อย่าเสียเวลาเอาสีข้างถูให้มันแดงปื้นมากกว่านี้อีกเลย..คนเล่นหุ้นเขากินข้าว ไม่ได้กินหญ้านะตัวเอง
*เหมือนกับกรณีของ NMG มีผู้รู้หลายท่านเปิดประเด็นให้ฉุกคิดมากมายหลายเรื่องด้วยกัน จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไม่อยากจะเข้ามายุ่ง เพราะกลัวโดนข้อหาเป็นพวกเดียวกัน มหากาฬหลอกกินเงินคนกันเองถึงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ล่าสุดมีการเม้าท์ถึง มหา’ลัยเอเชียฯ เข้ามามีส่วนพัวพันกับเรื่องเงินๆ ทองๆ จึงมีคนอยากรู้แนวทางการบริหารงานของมหา’ลัยแห่งนี้ “ลงทุนหุ้นเพื่อใคร?”เกี่ยวข้องอะไรกับ เฮีย ส. ซึ่งได้ตำแหน่งบริหารใหญ่โตหรือเปล่า? หรือแม้กระทั่งกำไรที่ได้จากการลงทุนเอาไปไหน? ทั้งหมดเป็นแค่หนังตัวอย่าง เรื่องจริงมี หน้าหมา..อุ๊ย..หน้าม้า เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะแยะไปหมด ล่าสุดหุ้นปิดที่ 2.06 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 4.60% แล้วนะจ๊ะ
*กรณีนี้เทียบเคียงได้กับ IFEC โดนถล่มเสียจนพังพาบ ไม่ใช่คนที่ไหน? คนกันเองทั้งนั้น! ไม่ต้องไปสืบเสาะข้อมูลให้เสียเวลา รูปแบบการเข้าทำ หรือรูปแบบของข่าวที่ออกมาตามห้องค้า “โมนิก้า” รู้ได้ทันทีว่า มาจากคนหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งตกเป็นข่าวฉาว ซึ่งหลายคนกำลังพยายามหยุดความระห่ำของกระทิง หนุ่มรายนี้ และผลดังกล่าวน่าจะทำให้หุ้นตัวนี้นิ่งอีกพักใหญ่ๆ หลังหุ้นรูดลง 6 วันทำการติดต่อกัน ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ 13.50 บาท ลบไป 0.30 บาทอีกแล้วนะซี
*รูปแบบข้างต้นเทียบเคียงได้กับ ITD ในช่วงต้นเดือนยังพยายามถีบตัวขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่แถว 10 บาท แต่ในช่วง 1-2 วันกลับรูดมหาราช “โมนิก้า” คงโฟกัสต้นสายปลายเหตุไปที่พวกตัวแสบข้างต้นที่เอ่ยชื่อไว้ย่อหน้าที่ 3 และอีกส่วนหนึ่งก็โยนให้คนเล่นรับกรรมกัน เอง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 7.70 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 8% มันเป็นเรื่องของโฆษณาชวนเชื่อล้วนๆ ของจริงยังไม่มีให้เห็น จึงต้องเจ็บตัวกันบ้าง..ใครเจ็บแล้วจำ ก็ดีกับตัวคนนั้นไป ส่วนที่เจ็บแล้วไม่จำ เขาเรียกว่า... 555
*ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อหุ้นสุดฮอต สุดฮิต AJD เข้าไปมีชื่อกล่อง set top box ที่มีปัญหา จนถูก กสทช. เรียกเข้าพบด่วน เพื่อปรับทัศนคติใหม่ นั้น “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่มีผลต่อการเข้าลงทุนเต็มๆ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ถึงกระนั้นพรายกระซิบยังคงยืนยันหนักแน่นว่า นี่เป็นแค่ปัญหาทางด้านเทคนิค วานนี้หุ้นถึงเด้งขึ้นจาก จุดต่ำสุดที่ 1.73 บาท ขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 4.80% มันเป็น “โอกาส”หรือ “อุปสรรค” ก็ลองพิจารณากันตาเนื้อผ้าแล้วกัน..อิอิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น