วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

WHA ปิดดีลฮุบ HEMRAJ เบ็ดเสร็จ


 

     
  

         WHA ปิดดีลฮุบ HEMRAJ เบ็ดเสร็จ


          
       

       
WHA ปิดดีลประวัติศาสตร์ ซื้อ HEMRAJ เดินหน้าเพิ่มทุน 468 ล้านหุ้น ขาย RO หุ้นละ 25-27 บ. พ่วงวอร์แรนต์ 3:1 พร้อมตั้งบริษัทย่อยซื้อหุ้น HEMRAJ ทำเทนเดอร์ 4.50 บ. ด้าน "สมยศ อนันตประยูร" ยันไม่เกิด Earning Dilution พร้อมได้ SCB ออกสินเชื่อ 3.55 หมื่นลบ. เป็นแหล่งเงินทุนอีก 80% มั่นใจจะต่อยอดการเป็นผู้นำทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม ด้านโบรกฯ มองจะหนุนผลประกอบการในอนาคตเพิ่มขึ้น 117% แตะ 1.28 หมื่นลบ. ให้เป้าหมาย 42 บ./หุ้น 

       
  เป็นอีกหนึ่งดีลประวัติศาสตร์ในวงการ คลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนสิ้นปี 2557 หลังจากที่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ WHA ได้ สรุปผลการซื้อ เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ ผ่านกระบวนการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right Offering) ในจำนวนไม่เกิน 351 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในขั้นต้น กำหนดช่วงราคาเสนอขายไว้ประมาณ 25-27 บาทต่อหุ้น และ ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Right Warrants) จำนวนไม่เกิน 117 ล้านหน่วย หวังต่อยอด สู่การเป็นผู้นำด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม
โดยวานนี้ราคาหุ้น WHA ปิดที่ระดับ 32.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -3.68% มูลค่าการซื้อขาย 24.76 ล้านบาท
HEMRAJ ปิดที่ระดับ 4.32 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 110.13 ล้านบาท 

*** ตั้งบ.ย่อยซื้อ HEMRAJ ทำเทนเดอร์ 4.50 บ

        นายสมยศ อนันตประยูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ WHA แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการ อนุมัติส่งหนังสือประกาศเจตนาในการจะเข้าถือหลักทรัพย์ของเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ เพื่อครอบงำกิจการโดย สมัครใจ โดยบริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ HEMRAJ โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท ภายใต้เงื่อนไขว่าบริษัทจะทำการยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ HEMRAJ ทั้งนี้การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ แบบมีเงื่อนไขจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ ต่อไปนี้ได้เกิดขึ้นครบถ้วนแล้ว
        (1) เงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อให้มีการเสนอขายหุ้นบริษัท เหมราชฯ ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในการทำราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจโดยบริษัทตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นได้เกิดขึ้นครบถ้วนแล้ว
          (2) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทและ/หรือบริษัทย่อยเข้าซื้อ หุ้นของบริษัท เหมราชฯ ตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น รวมถึงให้บริษัทดำเนินกระบวนการการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจโดยบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย??
          (3) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right Offering) และบริษัทได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ และได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนประมาณ 8,800,000,000 บาท
        (4) บริษัทได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินในจำนวนเมื่อรวมกับจำนวนเงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right Offering) เพียงพอสาหรับการซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทเหมราชฯ ในกระบวนการ การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจโดยบริษัท โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินบางราย

*** เพิ่มทุน 468 ล้านหุ้น ขาย RO หุ้นละ 25-27 บ. พ่วงวอร์แรนต์ 3:1 

        พร้อมกันนี้ อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 468,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จัดสรรดังนี้ ?
         (1) จำนวนไม่เกิน 351,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนจานวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) โดยคณะกรรมการมอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร เป็นผู้กำหนดจำนวนหุ้น อัตราการจัดสรร และ ราคาเสนอขาย ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 25 ถึง 27 บาทต่อหุ้น
      (2) จำนวนไม่เกิน 117,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีการจองซื้อ และชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ในสัดส่วย 3 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยวอร์แรนต์ดังกล่าวมีอายุ 5 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ราคาใช้สิทธิ หุ้นละ 35 บาท??กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) 06 ก.พ. 2558 วันประชุม 05 ก.พ. 2558 วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม (XM) 08 ม.ค. 2558 

*** ยันไม่จัดสรรหุ้นให้รายใหม่ - ไม่เกิด Earning Dilution 

       นายแพทย์สมยศ กล่าวว่า หากพิจารณาจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) รวมแล้วจะไม่เกิน 27% ของจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทหลังการเพิ่มทุน เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิที่บริษัทจะได้รับเพิ่มเติมจากการเข้าถือหุ้นของบริษัทเหมราชฯ จะทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิด Earning Dilution พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งใจที่จะให้สิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อไม่ให้มี Dilution จากการถือหุ้น โดยการจองซื้อหุ้นดังกล่าวบริษัทมั่นใจว่าจะมีส่วนลดขอราคาจองซื้อที่น่าสนใจ และจะไม่มีการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหม่แต่อย่างใด

*** มั่นใจ ได้หุ้น HEMRAJ มากกว่า 50% - SCB หนุนสินเชื่อ 3.55 หมื่นลบ. เป็นแหล่งเงินทุน 

       นายแพทย์สมยศ กล่าวเพิ่มอีกว่า บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวก็ต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นครบถ้วนแล้ว และในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 บริษัทจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้บริษัทและ/หรือบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เหมราชฯ รวมถึงอนุมัติให้บริษัทออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท และอนุมัติให้บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ตามรายละเอียดที่กล่าวมา ??เมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นที่กล่าวมาข้างต้นบรรลุผลสำเร็จครบถ้วนแล้ว บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจภายใต้เงื่อนไขว่า บริษัทจะยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หากปรากฏว่า เมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ ?
       “ บริษัทประมาณการไว้ว่า บริษัทจะยื่นคำเสนอซื้อได้ในวันที่ 5 มีนาคม 2558 และจะรับซื้อหลักทรัพย์เป็นเวลาทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2558 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2558 ซึ่งคาดว่าจะได้หุ้นของบริษัท เหมราชฯ มากกว่า 50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เนื่องจากบริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เหมราชฯเรียบร้อยแล้ว และจากการพูดคุยและเจรจากับผู้ถือหุ้นรายอื่นทั้งในและต่างประเทศ ผู้ถือหุ้นดังกล่าวมีความสนใจที่จะมาขายหุ้นในราคาประมาณนี้เช่นกัน”
      สำหรับแหล่งเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนสินเชื่อเป็นวงเงินกว่า 35,500 ล้านบาทหรือคิดเป็นประมาณ 80% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือบริษัทจะเพิ่มทุนด้วยการทำ Right Offering จำนวนประมาณ 8,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเดิมและประสบความสำเร็จด้วยดี อีกทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก็ได้เตรียมลงทุนตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และพร้อมที่จะเพิ่มทุนเกินสัดส่วนเพื่อสนับสนุนการทำ Right Offering ครั้งนี้ โดยเมื่อรวมเงินสนับสนุนจากธนาคารและเงินที่ได้จากการทำ Right Offering แล้ว จะเพียงพอต่อการซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ

*** มั่นใจดีลนี้ช่วยต่อยอดสู่การเป็นผู้นำด้านคลังสินค้า

        นางจรีพร อนันตประยูร กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวเสริมว่า การเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเหมราชฯ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถต่อยอดการเป็นผู้นำทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม แบบ Built-to-Suit โดยการขยายธุรกิจในแนวดิ่ง (Vertical upward integration) ผ่านธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้บริการแก่บริษัทข้ามชาติที่ครบวงจร พร้อมกับการเตรียมตัวขยายธุรกิจในการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนนิคมอุตสาหกรรม ในภูมิภาคนี้ หรือการลงทุนในคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
      บริษัท เหมราชฯ ถือเป็นบริษัทที่มีรายได้ประจำที่มั่นคง เนื่องจากมีสัดส่วนกว่าครึ่งมาจากรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคให้แก่ลูกค้าในนิคม รวมทั้งมีการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า กับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำ เช่น กลุ่ม Glow Energy และกลุ่ม Gulf และเมื่อรวมถึงรายได้จากธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานซึ่งจะขยายตัวตามการลงทุนของภาคอุตสาหกรรม การเข้าถือหุ้นครั้งนี้ก็จะเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทได้เป็นอย่างดีต่อไป

*** โบรกฯ เชื่อจะช่วยหนุนผลประกอบการโต 117% ให้เป้า 42 บ./หุ้น 

        บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า WHA จะได้ประโยชน์จากการได้ที่ดินในการขยายธุรกิจในอนาคต (Built-to-suit ที่มีทางเลือกในการซื้อคลัง, การเพิ่มขนาดของ REIT และอื่นๆ) รวมถึงการขยายฐานลูกค้าและบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำโซล่ารูฟ, โครงการ WHART และเงินปันผลจากธุรกิจของ HEMRAJ จะช่วยให้รายได้ของ WHA มีความสมดุลมากขึ้น (HEMRAJ มีรายได้จากการขายไฟฟ้า) และเมื่อรวมรายได้จาก HEMRAJ จาก 7-8 พันล้านบาทต่อปี สำหรับปี 2558-59F และรายได้ของ WHA ราว 5.8 พันล้านบาทจะทำให้ผลประกอบการในอนาคตเพิ่มขึ้น 117% เป็น 1.28 หมื่นล้านบาท แต่ยังคงอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 38% และเราคาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2558F (จากเดิม 2.8%) เนื่องจากผลของการควบรวมและเราได้ปรับผลประกอบการในปี 58F ขึ้น 52% เป็น 2.3 พันล้านบาท
         ทั้งนี้ใช้ผลตอบแทนไร้ความเสี่ยงและส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาด 2.5% และ 9.2% ตามลำดับ รวมถึงคาด CAPEX ที่เพิ่มขึ้น และ WACC ที่ 7% โดยมี Beta 1.5 เท่า และอัตราการเติบโตงวดสุดท้ายที่ 2% โดยมูลค่าที่เหมาะสมมาจาก DCF 40.5 บาท และ NAV ของเงินลงทุนอีก 1.5 บาท รวมเป็น 42 บาท มีความเสี่ยงสำคัญคือ 1) ความเร็วในการก่อสร้างคลังสินค้า 2) ความสามารถในการขายทรัพย์สินเข้ากองทุน 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น