ใครไม่ฉลาด
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557
มวลมหาประชาชนผู้มีการศึกษาคงภูมิใจเป็นล้นพ้น ที่สำนักพิมพ์ Routledge ใช้ภาพระบายความเกลียดทักษิณ “หน้า...หมา” ขึ้นปกตำรา Handbook of Southeast Asian Democratization แหม...ช่างยกย่องวีรกรรมของคนไทยเป็นแบบอย่างการพัฒนาประชาธิปไตยในภูมิภาค ไม่เหมือนจักรพรรดินิยมโอบามา บังอาจหาว่า คสช.ไม่ฉลาด
กระทรวงการต่างประเทศเก่งจังนะครับ รีบออกมาวนด้วยสำนวนการทูต ใครว่าคนอื่นไม่ฉลาดคนนั้นก็ไม่ฉลาด อ้างอีกต่างหากว่าคนเกินครึ่งโลกสนับสนุนรัฐประหาร โห...แค่จีนก็พันกว่าล้าน
ในฐานะคนไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ขอเป่าก้น คสช.ว่าเลือกตั้งต้นปี 2559 ยังเร็วไปด้วยซ้ำ น่าจะลากยาวไปถึงปี 2560 หรือ 2561 เพราะไม่ใช่แค่ปัญหาความมั่นคงสำคัญของชาติอย่างที่ฝรั่งอ้าง แต่ผมมองไม่เห็นทางที่สังคมไทยจะกลับสู่การเมืองปกติได้
ปี 2557 ที่กำลังจะผ่านไป จะขนานนามอย่างไรก็ได้ทั้งสิ้น ปีที่ไร้เหตุผล ไร้สติ ตรรกะวิบัติ รัฐบาลยุบสภาแล้วสุมหัวกันทั้งม็อบ ทั้งองค์กรอิสระ ไม่ยอมให้เลือกตั้งใหม่กระทั่งเกิดรัฐประหาร ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ เพราะมีคนขัดขวางการเลือกตั้งจนไม่สามารถลงคะแนนวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกฯ พ้นตำแหน่งเพราะย้ายเลขา สมช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ศาลปกครองวินิจฉัยคำสั่งย้ายข้าราชการมามากมาย ไม่เคยมีรัฐบาลไหนถูกถอดถอนอย่างนี้
ไม่ปฏิเสธหรอกว่าอำนาจการเมืองเสื่อม แต่อำนาจทุกอย่างเสื่อมไปด้วย ประชาชนไม่เชื่อถือว่ายังเหลือความยุติธรรม ไม่ใช่แค่รัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ แต่ทั้งรัฐกลายเป็น failed stateจนต้องปกครองด้วยรัฐประหารกฎอัยการศึก
นี่คือประเทศที่แตกสลายแล้ว รัฐประหารกฎอัยการศึกไปเมื่อไหร่ ก็อาจจะพังได้เมื่อนั้น แม้ในทางกลับกันถ้าถูลู่ถูกังกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ ก็อาจพังยิ่งกว่า แต่จะได้มีบทเรียนให้เข็ดกันเสียที ว่าทีหลังอย่าทำ
คนส่วนหนึ่งเพ้อหวังว่าสภาปฏิรูป การยกร่างรัฐธรรมนูญ จะแก้ปัญหาได้ แต่ล่าสุดฟังแล้วเป็นไง นายกฯ ไม่มาจากเลือกตั้ง ส.ว. 200 คนจากการสรรหาคอยควบคุมไม่ให้กระดิกกระเดี้ยอีกชั้น โอเค มันคงไม่ซ้ำรอยปี 35 เพราะม็อบมือถือที่เคยเรียกร้องให้นายกฯ มาจากเลือกตั้งตอนหลังก็กลืนน้ำลายเป่านกหวีดเสียส่วนใหญ่ แต่จะแก้ปัญหาได้หรือยิ่งกลายเป็นกดขี่อำนาจเลือกตั้งของประชาชน ก็ลงประชามติสิ จะได้รู้กัน ถ้าคว่ำก่อนก็ไม่ต้องนองเลือดภายหลัง
ไม่มีใครคิดสูตรวิเศษให้ประเทศนี้ได้ ตราบใดที่ไม่ยอมรับหลักการประชาธิปไตยปกติ หลักการง่ายๆ ยอมรับเสียงข้างมาก ให้เสรีภาพเสียงข้างน้อย และเอาชนะกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่ดันทุรังด้วยกำลังหรืออำนาจ ไม่ว่าอำนาจศาล อำนาจปืน อำนาจต่อรองทางชนชั้น เมื่อไม่เอาตรรกะเหตุผลสังคมก็ล่มสลายไม่สามารถอยู่ร่วมกัน
การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง แม้ดูเหมือนได้ผลดีในระยะแรก แต่ก็เหมือนกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ตอนแรกๆ ยังไม่รู้ตัวหรอกครับ นานไปสิจะเหมือนวัวพันหลัก แล้วแกะไม่ออก เลือกตั้งก็ยาก ไม่เลือกตั้งก็ลำบาก ถึงตอนนี้อย่าบอกเลยว่าใครโง่ใครฉลาด เพราะไม่ฉลาดตั้งแต่ต้นแล้วจะมาฉลาดภายหลังทำยังไงก็หนีไม่พ้น ต้องลากไปจนเห็นดำเห็นแดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น