พลังงานไม่ยึดใบอนุญาต
ปัญหา“วินด์”เรื่องส่วนตัว
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 09 ธันวาคม 2557
“พลังงาน” ส่งสัญญาณไม่ยึดใบอนุญาต “วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ” ระบุชัดเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโครงการ ฟาก DEMCO ย้ำคงสัดส่วนถือหุ้น 4% มั่นใจเคลียร์ปัญหาทุกอย่างได้
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม ถือเป็นนโยบายที่ดีแต่ปัญหาเกิดขึ้นในกรณีของกลุ่มบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ WEH ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโครงการและภาครัฐได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ อีกทั้งกลุ่มวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ถือเป็นบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นที่มีความตั้งใจ จะดำเนินโครงการผลิตไฟจากลม
ขณะที่นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนช่วงวานนี้ (8 ธ.ค.) ว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลมที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร WEH และปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องของเอกชน
“กรณีลมกระทรวงเองสนับสนุน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นของคุณนพพร เวลาจะไปเสนอขายหุ้นต่อหรืออะไรที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทคุณนพพร ต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจน ดังนั้นปัญหานี้ต้องไปถามที่ปรึกษาว่ามีการรายงานเรื่องรายได้อะไรอย่างไร ข้อสำคัญของพลังงานทดแทนอยู่ที่การบริหารจัดการเรื่องของผลประโยชน์จากการลงทุน และกระทรวงพลังงานเองไม่ได้กำหนดให้ต้องไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอะไร” นายอารีพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ปัจจุบันการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลมตั้งแต่เดือนก.ย. 57 ภาครัฐได้พิจารณาปิดรับซื้อเพิ่มไปแล้ว เพราะต้องการเคลียร์ของเก่าที่ค้างอยู่ให้เสร็จทั้งหมดก่อน โดยที่ผ่านมามีเป้าหมายรับซื้อ 1,800 เมกะวัตต์ แต่มีการเสนอขาย 1,900 เมกะวัตต์ รัฐเองคงต้องตอบรับซื้อในจำนวนที่เสนอขายมาทั้งหมด แต่ถึงที่สุดแล้วจะรับซื้อได้จำนวนเท่าใด คงอยู่ที่ความพร้อมของเอกชน ล่าสุดมีการจ่ายไฟแล้ว 250 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 400-500 เมกะวัตต์ ที่เหลืออยู่ระหว่างการตอบรับซื้อขายไฟฟ้า
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO กล่าวว่า กรณีบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ WEH ทาง DEMCO มีการรับงานก่อสร้างจาก WEH และมั่นใจในการลงทุนถือหุ้น WEH อยู่ประมาณ 4%
ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการ WEH มีมติให้ปรับโครงสร้างผู้บริหารที่เดิมมีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ เป็นประธานกรรมการบริหาร เชื่อว่าจะมีการแก้ปัญหาอย่างเร็วสุด รวมถึงเคลียร์เรื่องเงินกับธนาคารโดยมีความเชื่อมั่นในทีมของผู้บริหาร WEH ว่าจะสามารถเคลียร์ปัญหาต่างๆ ให้จบได้โดยเร็ว หลังจากนั้นก็น่าจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นได้
“สำหรับ WEH เรื่องแผนการดำเนินงานเหมือนเดิม ยังเป็นผู้ถือหุ้นโครงการเขาค้อประมาณ 30% และโครงการวะตะแบก บางส่วน รวมถึงเชื่อว่า WEH จะมีการเคลียร์กับธนาคารเพื่อไม่ให้โครงการมีความล่าช้า ส่วนเรื่องแผนการนำ WEH เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด”
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า WEH มีมูลค่าอยู่ จากการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ประมาณ 360 เมกะวัตต์ (MW) ที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการ จึงเชื่อในความสามารถในการดำเนินงาน WEH และทีมผู้บริหารหลังจากมีการปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่
ด้านผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 5,000-5,200 ล้านบาท รวมถึงมูลค่างานในมือ (แบ็กล็อก) ประมาณ 5,700 ล้านบาท น่าจะมีการรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 4/57 นี้ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ปีหน้า (ปี 2558) เป็นต้นไป
นอกจากบริษัทจะมีโอกาสจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ จากทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แบ่งเป็นกำลังผลิต ที่ค้างระบบประมาณ 576 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตที่ภาครัฐให้เพิ่มเติมอีก 800 เมกะวัตต์ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร อย่างไรก็ตามบริษัทมีความสามารถดำเนินการได้เต็มที่ประมาณ 100 เมกะวัตต์
นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ในฐานะผู้ถือหุ้น WEH กล่าวว่า การถือหุ้นใน WEH เป็นการถือหุ้นในนามส่วนตัว ลูกๆ และในนามบริษัท รวมกันแล้วประมาณ 27% ส่วนตัวแล้วเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้บริหาร แต่เบื้องต้นน่าจะมีการปรับโครงสร้างผู้บริหารแล้ว และน่าจะอยู่ระหว่างการจัดการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็รอ WEH เชิญประชุมผู้ถือหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับ DEMCO ให้ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท โดยประเมินมูลค่าธุรกิจ EPC ที่ 14.70 บาทต่อหุ้น การลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 4.40 บาทต่อหุ้น และการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสงอาทิตย์ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำ ซื้อ
โดย DEMCO จะได้งานก่อสร้าง (EPC) จำนวนมากในปีหน้าจากการที่รัฐบาลกำหนดให้โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ ต้องเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปี 2558 คาดว่าโครงการต่างๆ เหล่านี้มีมูลค่ารวมกันสูงถึงประมาณ 86,000 ล้านบาท ในฐานะที่ DEMCO เป็นหนึ่งในผู้รับเหมา EPC ที่มีศักยภาพสูงที่สุดในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จึงคาดว่า DEMCO จะคว้างานโครงการขนาดใหญ่ได้หลายโครงการ คาดว่ามีกำลังการผลิตรวมถึง 100-150 เมกะวัตต์ และมีมูลค่ารวมถึงกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ DEMCO ยังมีงานของโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลม อยู่ในมืออีกหลายโครงการจาก Wind Energy Holding (WEH) ถึงแม้ว่าตลาดจะมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของโครงการ WEH แต่มองว่า DEMCO ยังมีโอกาสสูงที่จะคว้างานโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมจากผู้ประกอบการรายอื่นอยู่ดี
ทั้งนี้โครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมและแสงอาทิตย์จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น DEMCO แม้ว่าจะตั้งสมมติฐานไว้โดยให้มูลค่าเพียง 4 โครงการแรกของ WEH ที่ 300 เมกะวัตต์ (DEMCO เป็นเจ้าของตามสัดส่วนการลงทุน 38.8 เมกะวัตต์) เนื่องจากมี 2 โครงการที่มีกำลังการผลิตแห่งละ 90 เมกะวัตต์เปิดดำเนินการแล้ว ขณะที่อีก 2 โครงการที่มีกำลังการผลิตแห่งละ 60 เมกะวัตต์ได้รับอนุมัติ PPA แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ขณะเดียวกัน DEMCO มีโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสงอาทิตย์และโครงการ solar rooftop อีก 9 โครงการซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 5.2 เมกะวัตต์ (ซึ่ง DEMCO เป็นเจ้าของตามสัดส่วนการลงทุน 3.0 เมกะวัตต์) และเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในสิ้นปีนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น