ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ไขปริศนาฝรั่งขายหนัก
กองไทยฟันด์ขายXD
-กูรูมั่นใจไม่เกี่ยวการเมือง แนะหุ้นคุณภาพดี
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 06 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 14 คน
ไขปริศนา 4 ก.พ.ต่างชาติสาดหุ้นไทยหนัก 4,888 ล้านบาท ที่แท้เป็นกองทุน Thai Fund ETF (TTF) ที่บริหารโดย Morgan Stanley ขายเพราะขึ้น XD กูรูมั่นใจ ไม่ได้ขายเพราะปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี แต่ทำตามเทคนิค จ่ายปันผลผู้ถือหน่วย ด้านบล.ภัทร แนะทยอยเก็บหุ้นคุณภาพดี แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลง จับตากองทริกเกอร์ ฟันด์ใหม่ ขนเงินซื้อหุ้น 23 พันล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แรงขายหุ้นในช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด 1,276.84 จุด ลบไป 15.97 จุด โดยมียอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ จำนวน 4,888 ล้านบาท คาดว่าเป็นผลจากการขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่มีสิทธิรับปันผล) ของกองทุน Thai Fund ETF (TTF) จ่ายปันผลจากกำไรและรายได้รวมทั้งสิ้น 8.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย
กองทุนนี้บริหารโดยกลุ่มของ Morgan Stanley ทั้งหมดมี 15.10 ล้านหน่วย ณ อัตราแลกเปลี่ยน 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับกองทุนฯต้องขายหุ้นไทย 4,026 ล้านบาท และทำให้ต่างชาติขายสุทธิจริงๆ เพียง 682 ล้านบาท
จากการตรวจสอบรายชื่อหุ้นที่กองทุน Thai Fund ETF ถืออยู่ ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 อาทิ หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, หุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, หุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC
หุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, หุ้นบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK, หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF, หุ้นบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIGC และหุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า การเทขายหุ้นของกองทุน Thai Fund ETF (TTF) ครั้งนี้ ไม่ใช่การขายเพราะปัญหาการเมืองหรือเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี แต่เป็นการขายตามเกณฑ์ของการขึ้น XD เพื่อปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุน จึงทำให้ออเดอร์การขายออกมาจากส่วนของนักลงทุนต่างชาติ
“แรงขายของฝรั่งที่รายงานออกมาช่วงตอนเย็นของวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้นดูแล้วน่ากังวลมาก เพราะเกรงว่าฝรั่งจะขายหุ้นไทยทิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นการขายทางเทคนิค แต่ก็ถือว่าเป็นการขายตามสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติเหมือนกัน” แหล่งข่าว กล่าว
ดังนั้นมีความเชื่อว่าแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติในหุ้นขนาดใหญ่อาจจะมีการชะลอลง เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยเกิน 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าขายมากพอสมควรแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยอาจมี downside risk จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แย่ลง และความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ตั้งเป้าหมายของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) ณ สิ้นปี 2014 ไว้ที่ระดับ 1,320 จุด
ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนตลอดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากสมมติฐานในกรณีกลางๆ (base case scenario) ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำให้ค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นคุณภาพดีที่มี downside ที่จำกัด และให้ลงทุนในหุ้นที่มี dividend yield ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งมี valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
สำหรับหุ้น Top picks ของฝ่ายวิเคราะห์มีดังนี้ หุ้นธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, หุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, หุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, หุ้นบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF
ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 2-3 พันล้านบาท
กองไทยฟันด์ขายXD
-กูรูมั่นใจไม่เกี่ยวการเมือง แนะหุ้นคุณภาพดี
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 06 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 14 คน
ไขปริศนา 4 ก.พ.ต่างชาติสาดหุ้นไทยหนัก 4,888 ล้านบาท ที่แท้เป็นกองทุน Thai Fund ETF (TTF) ที่บริหารโดย Morgan Stanley ขายเพราะขึ้น XD กูรูมั่นใจ ไม่ได้ขายเพราะปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี แต่ทำตามเทคนิค จ่ายปันผลผู้ถือหน่วย ด้านบล.ภัทร แนะทยอยเก็บหุ้นคุณภาพดี แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลง จับตากองทริกเกอร์ ฟันด์ใหม่ ขนเงินซื้อหุ้น 23 พันล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แรงขายหุ้นในช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด 1,276.84 จุด ลบไป 15.97 จุด โดยมียอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ จำนวน 4,888 ล้านบาท คาดว่าเป็นผลจากการขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่มีสิทธิรับปันผล) ของกองทุน Thai Fund ETF (TTF) จ่ายปันผลจากกำไรและรายได้รวมทั้งสิ้น 8.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย
กองทุนนี้บริหารโดยกลุ่มของ Morgan Stanley ทั้งหมดมี 15.10 ล้านหน่วย ณ อัตราแลกเปลี่ยน 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับกองทุนฯต้องขายหุ้นไทย 4,026 ล้านบาท และทำให้ต่างชาติขายสุทธิจริงๆ เพียง 682 ล้านบาท
จากการตรวจสอบรายชื่อหุ้นที่กองทุน Thai Fund ETF ถืออยู่ ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 อาทิ หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, หุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, หุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC
หุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, หุ้นบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK, หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF, หุ้นบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIGC และหุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน กล่าวว่า การเทขายหุ้นของกองทุน Thai Fund ETF (TTF) ครั้งนี้ ไม่ใช่การขายเพราะปัญหาการเมืองหรือเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี แต่เป็นการขายตามเกณฑ์ของการขึ้น XD เพื่อปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุน จึงทำให้ออเดอร์การขายออกมาจากส่วนของนักลงทุนต่างชาติ
“แรงขายของฝรั่งที่รายงานออกมาช่วงตอนเย็นของวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้นดูแล้วน่ากังวลมาก เพราะเกรงว่าฝรั่งจะขายหุ้นไทยทิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นการขายทางเทคนิค แต่ก็ถือว่าเป็นการขายตามสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติเหมือนกัน” แหล่งข่าว กล่าว
ดังนั้นมีความเชื่อว่าแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติในหุ้นขนาดใหญ่อาจจะมีการชะลอลง เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยเกิน 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าขายมากพอสมควรแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยอาจมี downside risk จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แย่ลง และความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ตั้งเป้าหมายของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) ณ สิ้นปี 2014 ไว้ที่ระดับ 1,320 จุด
ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนตลอดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากสมมติฐานในกรณีกลางๆ (base case scenario) ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำให้ค่อยๆ ทยอยสะสมหุ้นคุณภาพดีที่มี downside ที่จำกัด และให้ลงทุนในหุ้นที่มี dividend yield ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งมี valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
สำหรับหุ้น Top picks ของฝ่ายวิเคราะห์มีดังนี้ หุ้นธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, หุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, หุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, หุ้นบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF
ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 2-3 พันล้านบาท
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น