ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: แห่ถอนออมสิน
วันเดียว2หมื่นล.
แพนิกจำนำข้าว
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 5 คน
ออมสินแบงก์แทบแตก ลูกค้าแห่ถอนเงินวันเดียว 2 หมื่นล้านบาท แพนิกหลังปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ธ.ก.ส.นำไปจ่ายค่าจำนำข้าว “วรวิทย์” ระบุหากลูกค้าไม่สบายใจพร้อมยุติ ด้านกิตติรัตน์ลั่นจ่ายเงินชาวนาครบภายใน 6-8 สัปดาห์ หากไม่มีใครขัดขวาง
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวภายหลังลูกค้าต่างจังหวัดแห่ถอนเงินฝาก เนื่องจากธนาคารออมสินปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระให้แก่ชาวนาในโครงการจำนำข้าว
ผอ.ออมสินกล่าวยอมรับว่า วานนี้ (17 ก.พ.) มีเงินฝากไหลออก 2 หมื่นล้านบาท โดยมีลูกค้าแห่ถอนเงินฝากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีลูกค้ามาฝากเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท แต่ปริมาณดังกล่าวยังไม่ถือว่ามากนักและธนาคารยังพอรับได้ เนื่องจากธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ถึง 2 แสนล้านบาท โดยธนาคารออมสินยอมยุติบทบาทการให้กู้กับธ.ก.ส. หากลูกค้าของธนาคารยังมีข้อสงสัยอยู่
อย่างไรก็ตามธนาคารออมสินพร้อมยุติบทบาทการให้กู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หากลูกค้าของธนาคารไม่สบายใจ
โดยตลอดทั้งวันที่ธนาคารออมสินสาขาหลายสาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมาก จนทำให้บางสาขาไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายให้ ต้องจ่ายเป็นเช็คแทน ขณะที่บางสาขามีคนเข้ามาฝากเงินเพิ่มอย่างผิดปกติ
โดยที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้มีลูกค้าของธนาคารออมสิน ทั้งชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา ได้ทยอยเดินทางมาถอนเงิน และปิดบัญชี กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ธนาคารออมสินสาขาหลังสวนไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการถอนเงิน และปิดบัญชี จนทำให้ผู้บริหารธนาคารต้องขอยืมเงินฉุกเฉินจากธนาคารออมสินสาขาอื่นๆ ใน จ.ชุมพร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธไม่สามารถให้ยืมได้เนื่องจากธนาคารออมสินทุกสาขา ใน จ.ชุมพร อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เพราะมีประชาชนแต่ละพื้นที่ต่างเดินทางทยอยไปเบิกเงินและปิดบัญชีเช่นเดียวกัน จนเจ้าหน้าที่ต้องให้ผู้ที่ต้องการเบิกเงินมาใช้บริการใหม่ในวันถัดไป
ในขณะมีหลายรายต้องการปิดบัญชีและถอนเงินในวันนี้ ทำให้ทางธนาคารต้องจ่ายเป็นเช็คธนาคารรับประกันไปก่อน และให้มาขึ้นเงินในวันถัดไปเช่นกัน
น.ส.ญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต สำนักงานถนนพังงา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ประชาชนทยอยมาถอนเงินและปิดบัญชี กับธนาคารออมสินตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ทางธนาคารได้อำนวยความสะดวกบริการลูกค้าให้ดีที่สุด ตามนโยบายสำนักงานใหญ่ฯโดยจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงการจ่ายเงินให้กับชาวนา โดยนายกิตติรัตน์ ย้ำว่ามีโครงการช่วยเหลือชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ มานานถึง 3 ทศวรรษแล้ว ทั้งการจำนำข้าว การประกันราคาข้าว และการจ่ายเงินชดเชย ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ก็เพื่อดูแลชาวนา
สำหรับโครงการจำนำข้าว เริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 มีการดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งนาปี และนาปรัง รวม 4 ฤดูกาลผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีการทยอยจ่ายเงินให้ชาวนามาต่อเนื่อง แต่โครงการรับจำนำข้าวปี 2556 และ 2557 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 เกิดการยุบสภาฯ ทำให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มียอดรับจำนำทั้งสิ้น 175,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่าย 65,000 ล้านบาท และค้างชำระ 111,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ในวันนี้ และจะจ่ายให้ตามลำดับที่ลงทะเบียนได้ และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ยืนยันว่าธ.ก.ส.มีศักยภาพและมีสภาพคล่องในการดำเนินการจ่ายเงินถึง 4 พันล้านบาทต่อวัน และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 6-8 สัปดาห์ หากไม่มีการขัดขวาง และไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าการกู้เงินในตลาดเงิน เพื่อนำมาให้ ธ.ก.ส.ใช้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรขณะนี้นั้น ธ.ก.ส.ขอเรียนชี้แจงว่า เงินที่จ่ายจำนำข้าวยังเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม คือ เป็นเงินจากงบประมาณ เงินที่กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดการมาให้โดยการค้ำประกัน และเป็นเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืนเท่านั้น โดยไม่ใช้เงินฝาก ธ.ก.ส.แต่อย่างใด ขณะที่ การกู้เงิน 5 พันล้านบาทจากธนาคารออมสิน จะยังไม่นำออกมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว เพราะต้องการหารือกับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาเงินทุนว่าจะดำเนินการอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน จึงจะมีความชัดเจน ระหว่างนี้ ธ.ก.ส.จะนำเงินระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ 3 พันล้านบาทที่ได้มาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจ่ายให้กับชาวนา และสำหรับเงินกู้ระยะสั้นที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นวิธีการหนึ่งในหลายๆ วิธีการ ในการหาเงินทุนที่นำมาใช้ในโครงการของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่ามีความเป็นห่วง กรณีที่ประชาชนถอนเงินสดออกจากธนาคารออมสิน ที่เกิดจากความสับสนและเข้าใจผิดของประชาชน ดังนั้น ผู้บริหารธนาคารและรัฐบาลจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ เพื่อระงับปัญหาการถอนเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก และไม่ให้เกิดความเสียหาย
ส่วนกรณีที่ธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. นั้น นายธวัชชัย กังวลว่า ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากการปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้มีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย เพราะหาก ธ.ก.ส. นำเงินกู้จากธนาคารออมสิน มาจ่ายหนี้จำนำข้าวคืนให้ชาวนาโดยตรง อาจจะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่หาก ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ให้เอกชนในการประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าว และรัฐบาลนำเงินจากการระบายข้าวมาคืนชาวนานั้น สามารถทำได้
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงการปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคารครั้งนี้ จะผิดมาตรฐานทางบัญชีตามวิชาชีพทางบัญชีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ผิดนัดชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนา ทำให้มีมาตรฐานทางบัญชีมีความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน อาจจะมีผลเชิงลบต่อการจัดอันดับเครดิตของธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อด้วย ซึ่งหลักเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่ออินเตอร์แบงก์จะต้องคำนึงถึงความถูกต้องตามข้อกฎหมาย รวมถึงความชัดเจนและความเสี่ยงที่จะตามมาในการปล่อยสินเชื่อ แต่มองว่าในภาวะที่ไม่ปกติ จึงมีความจำเป็นต้องมีความชัดเจนในเรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งธนาคารมีฝ่ายกฎหมายพิจารณาในเรื่องนี้อยู่แล้ว สมาคมธนาคารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
วันเดียว2หมื่นล.
แพนิกจำนำข้าว
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 5 คน
ออมสินแบงก์แทบแตก ลูกค้าแห่ถอนเงินวันเดียว 2 หมื่นล้านบาท แพนิกหลังปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ธ.ก.ส.นำไปจ่ายค่าจำนำข้าว “วรวิทย์” ระบุหากลูกค้าไม่สบายใจพร้อมยุติ ด้านกิตติรัตน์ลั่นจ่ายเงินชาวนาครบภายใน 6-8 สัปดาห์ หากไม่มีใครขัดขวาง
นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวภายหลังลูกค้าต่างจังหวัดแห่ถอนเงินฝาก เนื่องจากธนาคารออมสินปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระให้แก่ชาวนาในโครงการจำนำข้าว
ผอ.ออมสินกล่าวยอมรับว่า วานนี้ (17 ก.พ.) มีเงินฝากไหลออก 2 หมื่นล้านบาท โดยมีลูกค้าแห่ถอนเงินฝากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีลูกค้ามาฝากเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท แต่ปริมาณดังกล่าวยังไม่ถือว่ามากนักและธนาคารยังพอรับได้ เนื่องจากธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ถึง 2 แสนล้านบาท โดยธนาคารออมสินยอมยุติบทบาทการให้กู้กับธ.ก.ส. หากลูกค้าของธนาคารยังมีข้อสงสัยอยู่
อย่างไรก็ตามธนาคารออมสินพร้อมยุติบทบาทการให้กู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หากลูกค้าของธนาคารไม่สบายใจ
โดยตลอดทั้งวันที่ธนาคารออมสินสาขาหลายสาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมาก จนทำให้บางสาขาไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายให้ ต้องจ่ายเป็นเช็คแทน ขณะที่บางสาขามีคนเข้ามาฝากเงินเพิ่มอย่างผิดปกติ
โดยที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้มีลูกค้าของธนาคารออมสิน ทั้งชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา ได้ทยอยเดินทางมาถอนเงิน และปิดบัญชี กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ธนาคารออมสินสาขาหลังสวนไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการถอนเงิน และปิดบัญชี จนทำให้ผู้บริหารธนาคารต้องขอยืมเงินฉุกเฉินจากธนาคารออมสินสาขาอื่นๆ ใน จ.ชุมพร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธไม่สามารถให้ยืมได้เนื่องจากธนาคารออมสินทุกสาขา ใน จ.ชุมพร อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เพราะมีประชาชนแต่ละพื้นที่ต่างเดินทางทยอยไปเบิกเงินและปิดบัญชีเช่นเดียวกัน จนเจ้าหน้าที่ต้องให้ผู้ที่ต้องการเบิกเงินมาใช้บริการใหม่ในวันถัดไป
ในขณะมีหลายรายต้องการปิดบัญชีและถอนเงินในวันนี้ ทำให้ทางธนาคารต้องจ่ายเป็นเช็คธนาคารรับประกันไปก่อน และให้มาขึ้นเงินในวันถัดไปเช่นกัน
น.ส.ญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต สำนักงานถนนพังงา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ประชาชนทยอยมาถอนเงินและปิดบัญชี กับธนาคารออมสินตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ทางธนาคารได้อำนวยความสะดวกบริการลูกค้าให้ดีที่สุด ตามนโยบายสำนักงานใหญ่ฯโดยจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงการจ่ายเงินให้กับชาวนา โดยนายกิตติรัตน์ ย้ำว่ามีโครงการช่วยเหลือชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ มานานถึง 3 ทศวรรษแล้ว ทั้งการจำนำข้าว การประกันราคาข้าว และการจ่ายเงินชดเชย ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ก็เพื่อดูแลชาวนา
สำหรับโครงการจำนำข้าว เริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 มีการดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งนาปี และนาปรัง รวม 4 ฤดูกาลผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีการทยอยจ่ายเงินให้ชาวนามาต่อเนื่อง แต่โครงการรับจำนำข้าวปี 2556 และ 2557 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 เกิดการยุบสภาฯ ทำให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มียอดรับจำนำทั้งสิ้น 175,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่าย 65,000 ล้านบาท และค้างชำระ 111,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนาได้ในวันนี้ และจะจ่ายให้ตามลำดับที่ลงทะเบียนได้ และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ยืนยันว่าธ.ก.ส.มีศักยภาพและมีสภาพคล่องในการดำเนินการจ่ายเงินถึง 4 พันล้านบาทต่อวัน และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 6-8 สัปดาห์ หากไม่มีการขัดขวาง และไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าการกู้เงินในตลาดเงิน เพื่อนำมาให้ ธ.ก.ส.ใช้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรขณะนี้นั้น ธ.ก.ส.ขอเรียนชี้แจงว่า เงินที่จ่ายจำนำข้าวยังเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม คือ เป็นเงินจากงบประมาณ เงินที่กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดการมาให้โดยการค้ำประกัน และเป็นเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระคืนเท่านั้น โดยไม่ใช้เงินฝาก ธ.ก.ส.แต่อย่างใด ขณะที่ การกู้เงิน 5 พันล้านบาทจากธนาคารออมสิน จะยังไม่นำออกมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว เพราะต้องการหารือกับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาเงินทุนว่าจะดำเนินการอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน จึงจะมีความชัดเจน ระหว่างนี้ ธ.ก.ส.จะนำเงินระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ 3 พันล้านบาทที่ได้มาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจ่ายให้กับชาวนา และสำหรับเงินกู้ระยะสั้นที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นวิธีการหนึ่งในหลายๆ วิธีการ ในการหาเงินทุนที่นำมาใช้ในโครงการของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ยอมรับว่ามีความเป็นห่วง กรณีที่ประชาชนถอนเงินสดออกจากธนาคารออมสิน ที่เกิดจากความสับสนและเข้าใจผิดของประชาชน ดังนั้น ผู้บริหารธนาคารและรัฐบาลจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ เพื่อระงับปัญหาการถอนเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก และไม่ให้เกิดความเสียหาย
ส่วนกรณีที่ธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. นั้น นายธวัชชัย กังวลว่า ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากการปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้มีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย เพราะหาก ธ.ก.ส. นำเงินกู้จากธนาคารออมสิน มาจ่ายหนี้จำนำข้าวคืนให้ชาวนาโดยตรง อาจจะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่หาก ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ให้เอกชนในการประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าว และรัฐบาลนำเงินจากการระบายข้าวมาคืนชาวนานั้น สามารถทำได้
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงการปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคารครั้งนี้ จะผิดมาตรฐานทางบัญชีตามวิชาชีพทางบัญชีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ผิดนัดชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนา ทำให้มีมาตรฐานทางบัญชีมีความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน อาจจะมีผลเชิงลบต่อการจัดอันดับเครดิตของธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อด้วย ซึ่งหลักเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่ออินเตอร์แบงก์จะต้องคำนึงถึงความถูกต้องตามข้อกฎหมาย รวมถึงความชัดเจนและความเสี่ยงที่จะตามมาในการปล่อยสินเชื่อ แต่มองว่าในภาวะที่ไม่ปกติ จึงมีความจำเป็นต้องมีความชัดเจนในเรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งธนาคารมีฝ่ายกฎหมายพิจารณาในเรื่องนี้อยู่แล้ว สมาคมธนาคารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น