วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รุนแรงเพราะไร้กติกา

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: รุนแรงเพราะไร้กติกา

คอลัมน์ วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 5 คน
เหตุขว้างระเบิด ยิง ทำร้าย ม็อบ กปปส. 3 คืนซ้อน โดยเฉพาะที่ตราด ซึ่งเด็กหญิงวัยเพียง 8 ขวบเสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บร่วม 30 ตามมาด้วยระเบิดที่ราชประสงค์ ซึ่งมีคนตายอีก 2 รวมเด็กอายุ 12 เป็นที่เศร้าสลดใจยิ่ง ทุกฝ่ายต้องร่วมกันประณาม และยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโกรธเกลียดอย่างไรก็ไม่ควรทำร้ายประชาชนด้วยกัน เพราะมันข้ามเส้นจากความขัดแย้งทางการเมืองไปเป็น “ฆาตกรรม”

นี่เราจะกลายเป็น 3 จังหวัดภาคใต้ไปแล้วหรือ ทั้งที่ไม่ใช่สงครามแบ่งแยกดินแดน ไม่ได้มีความแตกต่างทางเชื้อชาติศาสนา ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ตีเมืองขึ้น

แต่ถ้าย้อนดูให้ดีๆ ปัญหาภาคใต้ไม่ได้เป็นเพียงความแตกต่างทางเชื้อชาติศาสนา ปัญหาประเทศกำลังสะท้อนปัญหาภาคใต้ มีความเหมือนอยู่ในความต่าง และเหมือนมากกว่าที่คุณคิด

ใครเป็นผู้ก่อเหตุร้าย อาจยังปรักปรำไม่ได้ แต่พูดได้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาความเกลียดชังระหว่างคน 2 ฝ่ายพุ่งขึ้นถึงขีดสุด และเหตุร้ายคงไม่หยุดแค่นี้แน่นอน

ไม่ว่าใครยิง ขว้างระเบิด ก็ชัดเจนว่าแม้เห็นฝ่ายตรงข้ามตาย เสื้อแดงอาจสลดใจ แต่ไม่ได้โกรธเกลียดม็อบน้อยลง ขณะที่ม็อบยิ่งโกรธเกลียดรัฐบาล (และเสื้อแดง) มากขึ้น

ทำไมเราเกลียดกันได้มากขนาดนี้ ลำพังความเห็นต่างทำให้คนเกลียดกันได้มากเพียงนี้หรือ

ไม่ใช่ครับ เป็นเพราะ “วิธีการ” ที่เอาชนะกันต่างหาก หรือพูดอีกอย่าง เอาชนะโดยไม่เลือกวิธีการ

สังคมไทยควรยอมรับได้แล้วว่า เรากำลังเกลียดกัน เรากำลังมีความเห็นต่างจนแทบหาจุดร่วมกันไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถแยกประเทศ เพราะความแตกแยกลงไปถึงครอบครัว ผัวเมีย พี่น้อง จะแยกอย่างไร เราไม่สามารถฆ่าฟันกันจนหมดได้ เราไม่สามารถเอาชนะกันอย่างเด็ดขาดได้

สังคมที่มีคน 2 ขั้วพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ต้องหากติกาที่จะ “เอาชนะ” โดยไม่ต้องฆ่ากันแล้วอยู่ร่วมกันให้ได้ ไม่ใช่อยู่แบบ “รักกันไว้เถิด” ร้องเพลงนกแก้วนกขุนทอง แต่อยู่อย่างยอมรับความขัดแย้ง แตกต่าง ถกกันด้วยเหตุผล

กติกานั้นเรียกว่า “ประชาธิปไตย” ซึ่งเอาชนะกันด้วยบัตรเลือกตั้ง มีหลักนิติรัฐ มีความยุติธรรม มีหลักประกันเสรีภาพเสียงข้างน้อย

ไม่ใช่เสียงข้างน้อยลุกฮือ บอกว่าเอาอำนาจมา จะยึดอำนาจปกครองเอง ไม่เอาเลือกตั้ง ซ้ำยังดูแคลนเสียงข้างมากโง่ ไร้การศึกษา คุณจะห้ามคนอีกฝ่ายโกรธแค้นเกลียดชังคุณได้อย่างไร

ความเกลียดชังนี้ยิ่งทับทวี เมื่อม็อบใช้ทุกวิถีทางขัดขวางการเลือกตั้ง ใช้กระทั่งทุกวิธีสกัดกั้นไม่ให้รัฐบาลกู้เงินมาจ่ายจำนำข้าว โดยหวังให้ชาวนาเดือดร้อนลุกฮือไล่รัฐบาล

ความเกลียดชังนี้ยิ่งพลุ่งพล่าน เมื่อ ศรส.ส่งตำรวจไป “ขอคืนพื้นที่” โดยไม่ได้ใช้ “กระสุนจริง” แต่กลับถูกล้อมยิง ขว้างระเบิด โดย “นักรบนิรนาม” ที่เอาล่ะ แกนนำบอกว่าไม่ใช่คนของม็อบ แต่ถืออาวุธอยู่ในม็อบเห็นๆ

ความเกลียดชังนี้ยิ่งขึ้นถึงขีดสุด เมื่อม็อบอาละวาดไปตามที่ต่างๆ อย่างผยองลำพอง โดยที่ ศรส.ทำอะไรไม่ได้ กระทั่งม็อบบุกไป (เอาตีน) เหยียบหน้า ศรส.

“ม็อบมีเส้น” คือคำบรรยายสั้นๆ วันนี้ นอกจากไม่เอาชนะกันในกติกาแล้ว การต่อสู้ยังเกิดความไม่ยุติธรรม ผู้ที่ควรรักษากติกากลับไม่รักษากติกา ผู้ที่ควรเป็นกลางก็ไม่เป็นกลาง

เปรียบไปก็เหมือนคนเชียร์บอล ถ้าแพ้อย่างขาวสะอาดก็แค่บ่น ตัดพ้อ แต่ถ้ากรรมการให้จุดโทษกังขา ก็เป็นชนวนให้ยกพวกตีกัน ยิ่งผู้ชนะเยาะเย้ยถากถาง ระวังมีดเสียบพุง

แน่นอนว่าโกรธแค้นเกลียดชังแล้วทำร้ายกันเป็นความผิดมหันต์ แต่ถ้าจะยับยั้ง ก็ต้องถอดสลักความเกลียดชัง ยอมรับเสียเถอะว่าเราเกลียดกัน แต่ต้องหยุดเอาชนะกันนอกกติกา แล้วหาทางกลับมาสู้กันในกติกา

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น