MSCIเก็บ4หุ้นบิ๊กแคป
เพิ่มน้ำหนักใส่เงินพันล้าน
- เล็งหุ้น SCB-BTS-BGH-MINT เริ่ม 28 ก.พ.นี้
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 9 คน
จับตา 4 หุ้นใหญ่ MSCI เข้าซื้อเพื่อ rebalancing เริ่ม 28 กุมภาฯนี้ อาทิ SCB-BTS-BGH-MINT ยอดรวมเม็ดเงินเกือบพันล้านบาท โดยมี SCB มากสุด 661 ล้านบาท กูรูประเมินเป็นข่าวดีสุดของฝรั่งที่เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ แนะเป็นหุ้นพื้นฐานดี
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ให้จับตาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มที่ Morgan Stanley Capital International (MSCI) เตรียมจะประกาศ rebalancing หุ้นไทยรายตัว โดยคาดว่าจะมี 4 บริษัท อาทิ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และหุ้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH
หาก MSCI มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเหล่านี้จริง มีการประเมินกันว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาซื้อหุ้น SCB จำนวน 661 ล้านบาท, หุ้นBTS จำนวน 138 ล้านบาท, หุ้น BGH จำนวน 110 ล้านบาท และหุ้น MINT จำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อรอบนี้แม้จะมีไม่มาก แต่ถือเป็นข่าวดีที่ MSCI ยังเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยอยู่ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า การประกาศรายชื่อของ MSCI รอบนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ซึ่งจะไม่มากเท่าช่วงที่ผ่านมาที่เคยประกาศนำหุ้นเข้าไปอยู่ในการคำนวณของดัชนี MSCI ซึ่งถือเป็นการเพิ่มน้ำหนักตามปกติ ไม่ใช่การนำเข้าไปคำนวณ จึงทำให้เม็ดเงินลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นไทยรอบนี้ดูน้อยลงกว่าเมื่อก่อน โดยการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมียอดรวมเม็ดเงินซื้อหุ้น 4 บริษัทนี้จำนวน 994 ล้านบาท
“การปรับสมดุลโดยการ rebalancing รอบนี้ อาจจะมีเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไม่มากเท่ากับช่วงที่มีการนำหุ้นเข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI Thailand เหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่ถือเป็นข่าวดีที่สุดของสถาบันต่างประเทศที่จะมีให้กับตลาดหุ้นไทย ซึ่งหากดูรายชื่อหุ้นที่คัดเลือกมา 4 ตัว ล้วนแล้วเป็นหุ้นพื้นฐานดี และความเสี่ยงต่ำ” นักวิเคราะห์ กล่าว
สำหรับรอบนี้ทาง MSCI ไม่ได้มีการนำหุ้นไทยเข้าคำนวณในดัชนีถ่วงน้ำหนักการลงทุนเลย ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีผลต่อมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อตลาดหุ้นไทยอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาการเมืองในประเทศจะเป็นปัญหาเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น
เพิ่มน้ำหนักใส่เงินพันล้าน
- เล็งหุ้น SCB-BTS-BGH-MINT เริ่ม 28 ก.พ.นี้
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้เข้าชม : 9 คน
จับตา 4 หุ้นใหญ่ MSCI เข้าซื้อเพื่อ rebalancing เริ่ม 28 กุมภาฯนี้ อาทิ SCB-BTS-BGH-MINT ยอดรวมเม็ดเงินเกือบพันล้านบาท โดยมี SCB มากสุด 661 ล้านบาท กูรูประเมินเป็นข่าวดีสุดของฝรั่งที่เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ แนะเป็นหุ้นพื้นฐานดี
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ให้จับตาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มที่ Morgan Stanley Capital International (MSCI) เตรียมจะประกาศ rebalancing หุ้นไทยรายตัว โดยคาดว่าจะมี 4 บริษัท อาทิ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และหุ้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH
หาก MSCI มีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเหล่านี้จริง มีการประเมินกันว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาซื้อหุ้น SCB จำนวน 661 ล้านบาท, หุ้นBTS จำนวน 138 ล้านบาท, หุ้น BGH จำนวน 110 ล้านบาท และหุ้น MINT จำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อรอบนี้แม้จะมีไม่มาก แต่ถือเป็นข่าวดีที่ MSCI ยังเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยอยู่ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า การประกาศรายชื่อของ MSCI รอบนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ซึ่งจะไม่มากเท่าช่วงที่ผ่านมาที่เคยประกาศนำหุ้นเข้าไปอยู่ในการคำนวณของดัชนี MSCI ซึ่งถือเป็นการเพิ่มน้ำหนักตามปกติ ไม่ใช่การนำเข้าไปคำนวณ จึงทำให้เม็ดเงินลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นไทยรอบนี้ดูน้อยลงกว่าเมื่อก่อน โดยการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมียอดรวมเม็ดเงินซื้อหุ้น 4 บริษัทนี้จำนวน 994 ล้านบาท
“การปรับสมดุลโดยการ rebalancing รอบนี้ อาจจะมีเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไม่มากเท่ากับช่วงที่มีการนำหุ้นเข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI Thailand เหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่ถือเป็นข่าวดีที่สุดของสถาบันต่างประเทศที่จะมีให้กับตลาดหุ้นไทย ซึ่งหากดูรายชื่อหุ้นที่คัดเลือกมา 4 ตัว ล้วนแล้วเป็นหุ้นพื้นฐานดี และความเสี่ยงต่ำ” นักวิเคราะห์ กล่าว
สำหรับรอบนี้ทาง MSCI ไม่ได้มีการนำหุ้นไทยเข้าคำนวณในดัชนีถ่วงน้ำหนักการลงทุนเลย ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีผลต่อมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อตลาดหุ้นไทยอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาการเมืองในประเทศจะเป็นปัญหาเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น