สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ 1)นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ 2)นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล 3)นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล 4)นายอธึก อัศวานันท์ โดยทั้งหมดเป็นผู้บริหารกลุ่มบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)หรือ CPALL และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน)หรือ MAKRO เป็นเงินรวม 33,339,500 บาท และเปรียบเทียบปรับนายสมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล และนางสาวอารียา อัศวานันท์ ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุน เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท
โดยก.ล.ต.ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า บุคคลดังกล่าวได้ทำการซื้อหุ้น MAKRO โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น MAKRO ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน โดยพบการซื้อหุ้นในบัญชีบุคคลดังกล่าวหรือผู้สนับสนุนระหว่างวันที่ 10-22 เมษายน 2556 (ราคาหุ้นวันที่ 10 เม.ย.2556 อยู่ที่ 552 บาท และราคาหุ้น MAKRO วันที่ 19 เม.ย. 2558 อยู่ที่ 682 บาท)
ช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่ CPALL เจรจาตกลงจะซื้อหุ้น MAKRO ที่บริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. จำกัด (SHV) ถืออยู่ทั้งทางตรงและทางอ้อม 154,429,500 หุ้น หรือเท่ากับ 64.35% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ที่ราคาหุ้นละ 787 บาท เป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดขณะนั้น อย่างมีนัยสำคัญและเป็นเหตุให้ CPALL ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น MAKRO ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นการทั่วไป (Tender Offer) ที่ราคาเดียวกัน
โดยบุคคลทั้ง 4 อาศัยข้อมูลภายในซึ่งบางรายล่วงรู้จากการร่วมในคณะผู้บริหาร CPALL ที่เข้าร่วมเจรจากับผู้ขายในธุรกรรมดังกล่าว และบางรายล่วงรู้เนื่องจากการเป็นกรรมการและผู้บริหาร CPALL โดยพบการซื้อหุ้น MAKRO ในบัญชีนายก่อศักดิ์จำนวน 118,300 หุ้น และบัญชีนายปิยะวัฒน์จำนวน 5,000 หุ้น ส่วนกรณีนายพิทยา พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายสมศักดิ์ที่เป็นน้องชายจำนวน 7,500 หุ้น และกรณีนายอธึก พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวอารียาซึ่งเป็นบุตรสาว จำนวน 6,000 หุ้น
การกระทำของนายก่อศักดิ์ นายพิทยา นายปิยะวัฒน์ และนายอธึก ซึ่งเป็นบุคคลวงในเข้าข่าย เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สำหรับการกระทำของนายสมศักดิ์ และนางสาวอารียา เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของนายพิทยาและนายอธึก เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายก่อศักดิ์ เป็นเงิน 30,228,000 บาท นายปิยะวัฒน์ เป็นเงิน 725,000 บาท นายพิทยา เป็นเงิน 979,500 บาท นายอธึก เป็นเงิน 1,407,000 บาท และเปรียบเทียบปรับนายสมศักดิ์และนางสาวอารียา เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น