การคาดการณ์ตลาด

ผมมั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าคนที่เป็นเซียนหุ้นที่เก่งที่สุดในโลกก็ไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้ และจากที่ผมติดตามบทวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือไม่ก็ความเห็นของเซียนหุ้นไม่ว่าระดับโลกหรือในประเทศไทยก็ตาม ไม่มีใครคาดการณ์ตลาดได้ถูกต้องทุกครั้ง แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะสนใจเมื่อคนเหล่านั้นคาดการณ์ถูก ถ้าเราลองเก็บสถิติดูจะเห็นได้ว่าความถูกต้องอาจจะไม่ได้มีนัยยะสำคัญเลยก็ได้ อีกอย่างเวลาตลาดเปลี่ยนแปลงนักวิเคราะห์หรือผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็หาเหตุผลมารองรับเป้าหมายราคาใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะเชื่อและมีแนวโน้มที่จะเอนเอียงเลือกเชื่อข้อมูลเหล่านี้อยู่ดี

ธรรมชาติของตลาด

ตลาดขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อและแรงขายที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์ กลุ่มคนที่มีเงินมากพออาจจะแทรกแซงตลาดได้ในบางเวลา แต่ไม่สามารถจะกำหนดราคาที่แน่นอนได้เสมอ เนื่องจากความซับซ้อนของตลาดและกลุ่มผู้เล่นอื่นที่ต้องการมาแทรกแซงเช่นเดียวกัน และมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกด้วย เช่น การเกิดจราจล, การเกิดภัยธรรมชาติ เป็นต้น แม้คนกลุ่มใหญ่สามารถกำหนดราคาหุ้นได้ แต่ก็ไม่สามารถจะป้องกันปัจจัยภายนอกเหล่านี้ได้ เพราะฉะนั้นแม้ว่าเราจะมีข้อมูลบางอย่างที่สามารถรู้ได้ว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นไปถึงจุดที่เราคาด แต่ก็มีความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้อยู่ดี

กูรูผู้ชอบฟันธง

ผมตามกูรูเซียนหุ้นหลายคนที่ชอบออกมาบอกราคาเป้าหมายหรือดัชนีว่าจะไปถึงเท่านั้นเท่านี้ ผมมองว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ค่อยเกิดประโยชน์อะไรเท่าไร เพราะจากที่ตามดูไม่ว่าจะเป็นกูรูเก่งกาจระดับโลก ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ถูกทุกครั้ง และถึงแม้บางคนบอกว่าคนนี้ค่อนข้างแม่น ถูกมากกว่าผิด ผมก็มองว่าไม่เห็นประโยชน์อยู่ดี เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คนส่วนใหญ่ที่ตามกูรูเหล่านี้น่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีกันหมดแล้ว แต่ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่รวย เพราะฉะนั้นการตามกูรูไม่น่าจะใช่วิธีที่ดีเท่าไรในการเทรดและการลงทุน และบ่อยครั้งที่ตลาดไม่เป็นดังคาดกูรูมักจะมีเหตุผลรองรับความผิดพลาดของตนเองอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ให้ความสำคัญต่อความเห็นของคนเหล่านี้เท่าไร มีแต่จะทำให้เราไขว้เขวมากกว่า และถ้าลองศึกษาประวัติเซียนหุ้นพบว่าเซียนหุ้นหลายคนนั้นก็ขาดทุนจากความเชื่อมั่นในการคาดการณ์ของตัวเองจนสิ้นเนื้อประดามาแล้ว

สิ่งสำคัญกว่าการคาดการณ์

หัวใจสำคัญในการอยู่รอดและทำกำไรได้อย่างยั่งยืนในตลาดหุ้นนั้น ไม่ใช่ความแม่นยำแต่สิ่งสำคัญที่สุดและเป็นหัวใจของการลงทุนทุกประเภทก็คือ การบริหารความเสี่ยง ฉะนั้นเราควรมาโฟกัสศึกษาเรื่องนี้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้มากกว่า การบริหารความเสี่ยงนั้นจะทำให้เราอยู่รอดได้อย่างแท้จริง เพราะการบริหารความเสี่ยงจะทำให้เราขาดทุนน้อยเมื่อเราผิดพลาดและได้กำไรเยอะเมื่อเราเป็นฝ่ายถูก การบริหารความเสี่ยงที่ดีต้องครอบคลุมถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และจัดการเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

การคาดการณ์ไม่ถือว่าเลวร้ายถ้าอยู่ในกรอบของการบริหารความเสี่ยงอยู่เสมอ เพียงแต่การคาดการณ์มักจะนำไปสู่การละเลยการบริหารความเสี่ยงในที่สุด โดยเฉพาะกับคนที่คาดการณ์ถูกมาตลอดจนเกิดความมั่นใจในตัวเองสูงมากและเมื่อคาดการณ์ผิดก็ทำให้เจ็บหนักจนต้องออกไปจากตลาดเลยทีเดียว