วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

MVNO

   ก่อนที่เราจะเลือกตัดสินใจใช้บริการ 3G ของค่ายไหนซักค่ายหนึงเราควรมาทำความรู้จักกับคำว่า MVNO กันก่อนครับว่ามันคืออะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับระบบ3Gด้วย

ทำความรู้จักกับ MVNO 

MVNO เนี่ยมันย่อมาจาก Mobile Virtual Network Operator หรือว่า "ผู้ให้บริการเสมือน" ถ้าจะเอาคร่าวๆ mvno คือ "ยี่ปั๊ว" ดีๆนี่เองที่ไม่ได้มีเสาหรือโครงข่าย 3G เป็นของตัวเอง แต่ว่าอยากจะร่วมทำธุรกิจตรงนี้ด้วยก็เลยไปขอแบ่งสัมปทานมาทำบ้าง ซึ่งหลังจากที่การประมูลเสร็จสรรพแล้วบริษัทเหล่านั้นก็จะได้สิทธ์ในการให้บริการร่วมในระบบเครือข่าย 3G กลายมาเป็น MVNO ที่เราเรียกกันอยู่ซึ่งเขาจะมาให้บริการแก่พวกเราอีกทอดนึง  
  
สรุปแล้วก็จะมี MVNO ที่ว่ามาให้เราเลือกดังนี้ครับ
  • Loxley                      ภายใต้ชือ  I-Kool
  • I-KoolSamart                    "        I-Mobile3GX
  • IEC International               "        IEC3G
  • 365 communications          "        365
  • M Consultant Corporation "        Mojo3G 


*** หากจะเริ่มใช้บริการ 3G ลองเปรียบเทียบโปรโมชั่นและบริการของแต่ละค่ายดูกันก่อนครับว่าถูกใจเจ้าไหน มากกว่ากัน (อันนี้อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคนครับ) *** 
           

         ทีนี้บางคนอาจสงสัย อ้าวแล้วเจ้าภาพตัวจริงอย่างพี่ TOT ไม่ทำเองขายเองซะหละปล่อยให้คนอืนมาแบ่งรายได้ไปทำไม? ตรงนี้(อาจ)เป็นเพราะศักยภาพในด้านการตลาดหรือการโฆษณาที่ยังไม่สู้ดี ดูๆไปแล้วให้เอกชนมาทำการตลาดน่าจะรุ่งกว่ากัน ก็เลยเปิดซองแบ่งๆสัมปทานให้กับบริษัทที่สนใจจะเป็นผู้ให้บริการ MVNO มาทำการตลาด แต่ถ้าหากพูดในด้านระบบโครงข่ายแล้วTOTย่อมเก่งกว่าแน่นอน ครับเพราะหัวกิทิทางด้านโทรคมนาคมจะมากระจุกอยู่ที่นี่ซะส่วนใหญ่นั้นเอง  ซึ่งสุดท้ายแล้วธุรกิจ MVNO ไม่ใช่ใครจะมาทำก็ได้นะครับ ถ้าคึดจะทำเนี่ยจะต้องมีชือเสียงทางด้านการจักการเรื่องพวกนี้มาก่อน ต้องมีการตลาดแนวๆ ไม่ไปซ้ำกับของชาวบ้านเค้า เอาง่ายๆคือท่านต้องมีความสามารถที่เพียงพอ และที่สำคัญก็ต้องมีตังค์ในกระเป๋าหนาๆด้วย (และสุดท้ายก็คือ  mvno เกิดขึ้นมานานแล้วในตลาดต่างประเทศ )

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

NGVอาจไม่มีต่อ

ปตท.คาดปี′59 เอ็นจีวีสะท้อนกลไกตลาด อนันตพรอ้ำอึ้งเลิกใช้แก๊สโซฮอล์ 95-91

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมธุรกิจพลังงานจะส่งหน่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเคลื่อนที่ (mobile lab) จำนวน 10 คัน ออกตรวจสถานีบริการน้ำมันและคุณภาพเชื้อเพลิงทั่วประเทศ ซึ่งจะสุ่มตรวจน้ำมันทั้งจากโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจได้ว่าในช่วงของการเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวมีน้ำมันคุณภาพให้บริการ และมั่นใจได้ว่าน้ำมันไม่ขาดแคลน
พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ส่วนกรณีจะยกเลิกใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ในปี 2559 หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานกำลังเก็บข้อมูลการใช้อยู่คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะ ว่าประชาชนนิยมใช้อะไรมากน้อยแค่ไหนอย่างไร หากพบว่าชนิดไหนใช้น้อยก็อาจจะพิจารณายกเลิก ขณะเดียวกันดูเครื่องยนต์ด้วยว่าใช้ได้หรือไม่ ผู้ประกอบการยืนยันว่าใช้อะไรก็ได้  

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2559 ปตท.จะใช้เงินลงทุนประมาณ 52,000 ล้านบาท จากงบลงทุน 5 ปีอยู่ที่เกือบ 300,000 ล้านบาท ซึ่ง 70% จะลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท ส่วนที่เหลือจะลงทุนในธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท ซึ่งไม่รวมงบทุนใหม่ๆ และการซื้อกิจการ

นายเทวินทร์กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2559 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหรือหากมีโอกาสปรับสูงขึ้นก็อาจจะถึง 54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้เช่นกัน ส่วนแนวโน้มราคาเอ็นจีวีปี 2559 ในช่วงต้นปีราคาน่าจะลดลง เพราะราคาก๊าซจะปรับตัวช้ากว่าราคาน้ำมัน ทำให้ราคาต้นทุนเอ็นจีวีน่าจะลดลงมาเหลือ 14 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งใกล้กับราคาขายปลีกเมื่อรวมค่าขนส่งแล้ว เมื่อราคาขายปลีกหน้าปั๊มใกล้กับราคาต้นทุน จะทำให้ราคาเอ็นจีวีเป็นไปตามกลไกตลาดแท้จริง ปัจจุบันต้นทุนเอ็นจีวีอยู่ที่ 14.50-15 บาทต่อกก. ส่วนการขยายสาขาปั๊มเอ็นจีวีในปีหน้า น่าจะเปิดเพิ่มเองอีก 2-3 ปั๊ม 






ที่มา : นสพ.มติชน

Pylon กิมเอ็งเชียร์

โบรกฯชูPYLONหุ้นเด่นปี59

2015-12-30 12:00:00
ผู้เข้าชม : 1

:ขานรับกำไรเติบโต233ล้าน

จับตา PYLON หุ้นเด่นขนาดกลาง-เล็กปีหน้า โบรกฯ ชี้งบปี 59 กำไรพุ่ง 233 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท เชื่อรับผลบวก PPP Fast Track ภาครัฐ 

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เลือกบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เป็นหุ้นแนะนำสำหรับปี 2559 สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก โดยผลการดำเนินงานคาดได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/58 และผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากงานในมือมีมาร์จิ้นสูง โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2559 จะทำได้จำนวน 233 ล้านบาท เติบโต 14% จากปี 2558
นอกจากนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” อิง P/E 18 เท่า ประเมินมูลค่า จะได้ราคาเหมาะสมปี 2559 ที่ระดับ 11.20 บาทต่อหุ้น โดยความเร็วการออกข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง หรือ TOR รถไฟฟ้า จะเป็นจุดที่ฝ่ายวิเคราะห์มีโอกาสจะปรับเพิ่มมุมมองบวกต่อ PYLON ซึ่งในเชิงกลยุทธ์ แนะนำทยอยสะสม เพื่อเตรียมรับการปรับประมาณการในปี 2559
สำหรับในไตรมาส 4/58 รายได้จะเริ่มฟื้นตัว 10-13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 มาอยู่ที่ระดับ 300 ล้านบาท ขณะทีมูลค่างานในมือ เมื่อวันที่17 พ.ย. 2558 อยู่ที่จำนวน 785 ล้านบาท โดย 30% ของงานที่มีนั้น เป็นงานรับเฉพาะค่าแรง มีมาร์จิ้นที่สูงและจะรับรู้ในช่วง 3-4 เดือนแรกของปี 2559
ดังนั้นทิศ ทางของผลกำไรในไตรมาส 1/59 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนการเปิดหน้างานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร ช่วงไตรมาส 1/59 จะทำให้ผู้รับเหมาคู่แข่งหลักจะทยอยกลับเข้าสู่หน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งทำให้การแข่งขันราคาระหว่างผู้รับเหมางานเสาเข็มเจาะมีแนวโน้มจะเบาบางลง จึงส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของกลุ่มที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ PYLON ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการ PPP Fast Track ภาครัฐ โดยในปี 2559 โครงการรถไฟฟ้าในกรอบ PPP Fast track จำนวน 3 สาย ได้แก่ ส้ม เหลือง ชมพู จะมีความคืบหน้าทั้งด้านการประมูล และจะเริ่มก่อสร้างได้บางโครงการในช่วงไตรมาส 3/59 โดยคิดเป็นมูลค่าก่อสร้างรวม 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่งผลบวกต่อ PYLON จากปริมาณความต้องการเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ทั้งในงานโครงสร้างรถไฟฟ้า และอาคารสูง คอนโดมิเนียม บริเวณแนวรถไฟฟ้า
อีกทั้ง ยังมีงานอื่นๆ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งบางโครงการมีงานฐานรากเป็นจำนวนมาก ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งโดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนหรือ D/E ที่ระดับ 0.3 เท่า และมีกระแสเงินสดในมือจำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งจะพร้อมสำหรับการรับงาน และขยายกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ทิศทางของตลาดงานเสาเข็มเจาะเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งหากมองว่า การออกร่าง TOR ชุดแรกของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งป็นหนึ่งในโครงการของ  PPP Fast track โดยคาดจะเห็นได้ในไตรมาส 1/59 และนับเป็นจุดสำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดงานก่อสร้าง และราคาหุ้นกลับมาคึกคัก และมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น จากอุปสงค์ใหม่ และอัตรากำไรที่สูงขึ้นจากภาวะตึงตัวของผู้รับเหมางานเสาเข็มเจาะที่อาจเกิดขึ้นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เคล็ดลับการสังเกตตลาดฟื้นตัว

เคล็ดลับการสังเกตตลาดฟื้นตัว

secreat-of-trend-reversal
ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยลดลงทุกวันสิ่งที่เป็นคำถามของหลายคนก็คือ เมื่อไรตลาดจะฟื้น คำตอบที่ได้ก็คือไม่มีใครรู้ เพราะตลาดหุ้นคือสิ่งไม่แน่นอน แต่มีเคล็ดลับที่บอกได้ว่าตลาดฟื้นตัวแล้วหรือยัง ซึ่งการสังเกตตลาดฟื้นตัวนั้นเป็นการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่การคาดเดาอนาคตและเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการคาดเดาอนาคต เพราะแนวคิดหลักในการอยู่รอดของตลาดหุ้นของสุดยอดนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ทำให้หลายคนประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น ไม่ใช่การคาดเดาอนาคตแต่เป็นการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อที่จะเข้าไปคว้าโอกาสด้วยและป้องกันความเสี่ยงอย่างเหมาะสมตามภาวะโอกาสนั้น

ลักษณะเด่นของตลาดขาลง

ตลาดขาลงจะมีลักษณะเด่นทีทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ทั้งฝั่งขายและฝั่งซื้อเทรดยากด้วยกันทั้งสองฝั่งอยู่ก็คือ ความผันผวนที่รุนแรง โดยเฉพาะแรงถล่มขายในช่วงแรกที่ทำให้ตลาดเกิดภาวะขายอย่างรุนแรง (Oversold) ช่วงนี้ราคาหุ้นมักจะลงรุนแรงแล้วขึ้นมาชนแนวต้านสลับกับลงต่อมากกว่าเดิม หลังจากนั้นตลาดจะเข้าสู่ช่วงที่ผันผวนมากขึ้น และการเทรดจะยากมากขึ้น เพราะตลาดจะขึ้นลงแบบเหวี่ยงแรงมากในแต่ละวัน บางครั้งก็ทะลุแนวต้านแล้วก็เกิดแรงขายจนกลับมาหลุดแนวรับอย่างรวดเร็วแบบไร้ทิศทาง ซึ่งหลังจากช่วงนี้แหล่ะจะเป็นช่วงที่ควรเฝ้าสังเกตสัญญาณฟื้นตัว

การสังเกตตลาดฟื้นตัว

เคล็ดลับคือช่วงนี้เป็นช่วงที่เทรดเดอร์ต้องจับตาดูแล้ว หาสัญญาณกลับตัวในเชิงบวก (Bullish Divergence) วิธีดูก็คือ ไล่ดูหุ้นส่วนใหญ่เทียบกับตลาดถ้าตลาดทำจุดต่ำสุดใหม่แต่หุ้นส่วนใหญ่เริ่มไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่และหุ้นบางตัวเริ่มสร้างฐานใหม่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ตามไปด้วยแต่วิ่งเคลื่อนที่ออกด้านข้างแทนมากกว่าเดิม หุ้นส่วนใหญ่ไม่ลงตามตลาด และจุดที่ต้องจับตาดูก็คือ เมื่อตลาดเริ่มเด้งแล้วตลาดไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่จุดนี้จะบอกได้ว่าตลาดอาจจะเริ่มมีการฟื้นตัว และหุ้นตัวใหญ่ ๆ จะเริ่มทยอยขึ้น เช่น กลุ่มสื่อสาร, พลังงาน, ธนาคาร เป็นต้น ซึ่งแต่ละครั้งกลุ่มไหนจะมานั้นไม่แน่นอน แต่จะเป็นตัวที่มีมูลค่าตลาดสูงและตามด้วยหุ้นตัวเล็กในอีกไม่กี่วันถัดมาแต่จุดนี้แค่บ่งบอกว่าตลาดเริ่มฟื้นเท่านั้น แต่ตรงจุดนี้นี่เองที่เป็นจุดน่าเข้าซื้อเป็นอย่างมาก เพราะถ้าตลาดกลับตัวหลุดแนวรับก็ตัดขาดทุนได้ค่อนข้างแคบแต่มีโอกาสได้กำไรสูงกว่าซึ่งคุ้มค่ากับการเข้าเทรด

ยืนยันการฟื้นตัวของตลาด

เนื่องจากแรงซื้อจะทะลักเข้ามามากจนหุ้นพุ่งแรงจนเข้าเขตซื้อมากเกินไป (Overbought) แต่ตลาดจะไม่ลงมากนักและขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดที่คนส่วนใหญ่ยังกลัวและเข็ดขยาดกับตลาดขาลงอยู่ ก็จะพลาดการเข้าตลาด ณ จุดนี้ได้ และช่วงนี้นี่เองที่เป็นช่วงยืนยันว่าตลาดได้ฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว

บทสรุปส่งท้าย

เคล็ดลับการสังเกตการฟื้นตัวของตลาดสามารถสังเกตได้ไม่ยาและมีประโยชน์สำหรับคนที่มองตลาดไม่ออกว่าควรจะเข้าซื้อตอนไหน การสังเกตนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าเทรดและกำหนดจุดที่เราจะเข้าเทรดได้เป็นอย่างดี โดยการสังเกตสัญญาณกลับตัวเชิงบวก ได้แก่ หุ้นส่วนใหญ่ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่, ตัวใหญ่เริ่มขึ้นหลังจากนั้นไม่กีวันตัวเล็กเริ่มทยอยขึ้นตาม เป็นต้น หลังจากนั้นก็หาจุดเข้าซื้อและตัดขาดทุนต่ำกว่าแนวรับเล็กน้อยแล้วรอตลาดขึ้นยืนยันการฟื้นตัวกรณีการฟื้นตัวล้มเหลวเราก็ขายตัดขาดทุนซึ่งจะขาดทุนไม่มากเพราะจุดที่เราเข้าตลาดเป็นจุดที่ไม่ห่างจากแนวรับมากนัก

เอล อีเรียน กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องสื่อสารอย่างชัดเจน

ความไร้เสถียรภาพในตลาดไม่อาจยับยั้ง“เฟด”ได้

2015-12-16 12:01:00
ผู้เข้าชม : 1

ความผันผวนในตลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจะไม่ยับยั้งธนาคารกลางสหรัฐจากการขึ้นดอกเบี้ยในวันพุธนี้ได้ แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะทำให้ความท้าทายในการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัฐมีความซับซ้อนมากขึ้น

โมฮัมเหม็ด เอล-อีเรียน หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของบริษัทอัลลิแอนซ์ กล่าวว่า เมื่อสามเดือนก่อนธนาคารกลางสหรัฐเจอภาวะแวดล้อมที่คล้ายกับตอนนี้ คือตลาดซวนเซเพราะมีความวิตกเกี่ยวกับการเติบโตของจีน ราคาน้ำมันลดลงอย่างรุนแรง และขาดสภาพคล่อง  ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐเชื่อว่า จะเป็นความรอบคอบที่จะรอให้ตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาสงบเงียบเสียก่อน
เมื่อเกิดความสงบในเวลาต่อมาในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เฟดเตรียมปูทางให้ตลาดเตรียมพร้อมต่อการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนนี้เท่านั้น ผลการสำรวจชิ้นหนึ่งของวอลล์สตรีท เจอร์นัลพบว่า นักเศรษฐศาสตร์มากกว่า 90% คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย
แต่ตลาดการเงินทั่วโลกกลับมาไร้เสถียรภาพอีกครั้ง ซึ่งไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีแรงเทขายในตลาดอย่างรุนแรงเพราะมีความวิตกขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับจีน มีความไม่แน่นอนที่เกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางสำคัญๆ ซึ่งสวนทางกัน และมีผลกระทบจากสามเซ็กเมนต์ในตลาดที่ไม่สมดุลกัน คือจาก น้ำมัน พันธบัตรที่มีผลตอบแทนสูง และสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่  นักลงทุนยิ่งมีความวิตกเพิ่มมากขึ้นเมื่อเกิดความวิตกเกี่ยวกับสภาพคล่องโดยมีสาเหตุมาจากการที่กองทุน เธิร์ด อะเวนิว ตัดสินใจที่จะจำกัดการไถ่ถอนกองทุนซึ่งให้ผลตอบแทนสูง
เอล อีเรียน กล่าวว่า พัฒนาการเหล่านี้มีความสำคัญ แต่ไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้เฟดตัดสินใจไม่ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี 
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งโดยมีการสร้างงานอย่างแข็งแกร่งเป็นประวัติการณ์  โดยเฉลี่ย 12 เดือนมีการสร้างานเป็นประมาณ 240,000 ตำแหน่งต่อเดือน และทำให้อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 5% และรายได้ต่อชั่วโมงลดน้อยลง  ซึ่งลดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินฝืด และการดำเนินการของธนาคารกลางต่างๆซึ่งรวมถึงธนาคารกลางยุโรป ได้ทำให้การคุกคามจากต่างประเทศที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯบรรเทาลง
อย่างไรก็ดี เอลอีเรียน กล่าว่า เหตุผลในการขึ้นดอกเบี้ยยังคงมีอยู่ และความวุ่นวายในตลาดการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มความเสี่ยงให้เฟดต้องตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้  ผลที่ตามมาก็คือ เฟดจำเป็นจะต้องสื่อสารอย่างชัดเจน โดยจะต้องย้ำถึงองค์ประกอบสำคัญสามประการว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการขึ้นครั้งแรกที่จะไม่ลึกมาก  เฟดจะไม่ทำตามขั้นตอนในการขึ้นดอกเบี้ยเหมือนทุกครั้งแต่จะมีการรณรงค์ที่ผิดแผกจากเดิมและจะขึ้นอยู่กับภาวะต่างๆมาก  และเมื่อเฟดเสร็จสิ้นวงจรการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว อัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยในอดีต
เอล อีเรียน กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องสื่อสารอย่างชัดเจนและแน่วแน่เพราะความไม่แน่นอนหลักๆเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับผลกระทบโดยตรงของมันที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะว่าผลกระทบเหล่านั้นน่าจะเล็กน้อย แต่ควรจะต้องวิตกเกี่ยวกับความหมายในการขึ้นดอกเบี้ยที่มีต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน ซึ่งได้ถูกท้าทายให้ปรับตัวเข้ากับความแตกต่างครั้งใหญ่ระหว่างนโยบายเงินของเฟดกับนโยบายเงินของธนาคารกลางในที่อื่นๆ
แม้ว่าเฟดจะลดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นพิเศษอย่างระมัดระวัง  ธนาคารกลางอื่นๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางจีน น่าจะเลือกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้มาตรการพิเศษอีก   และเนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอื่นๆส่วนใหญ่ถูกแช่แข็งไว้เพราะมีข้อจำกัดทางการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิรูปโครงสร้างและงบประมาณ  มันจึงขึ้นอยู่กับตลาดการเงินส่วนตัวที่จะประนีประนอมต่อความแตกต่างด้านนโยบาย และนั่นน่าจะก่อให้เกิดความผันผวนของราคามากขึ้นในหลายตลาด
ด้วยการสื่อสารอย่างแข็งแกร่งและการดำเนินนโยบายมหภาคที่มีความรอบคอบ เฟดมีโอกาสที่จะดำเนินนโยบายเงินสู่ภาวะปกติโดยไม่เพิ่มความตึงเครียดที่สร้างความเสียหายต่อตลาดการเงิน แต่หากเฟดสื่อสารผิดพลาด หรือหากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไม่สามารถดีขึ้นอย่างเพียงพอ หรือหากมีเหตุการณ์ในตลาดแบบที่เกิดขึ้นกับกองทุนเธิร์ด อะเวนิว นักลงทุนก็จะพบในไม่ช้าว่า ธนาคารกลางต่างๆมีความสามารถน้อยลงมากที่จะมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์สามอย่างที่เกี่ยวข้องกับพอร์ตลงทุน นั่นคือ ผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง ความผันผวนที่ควบคุมได้ และความสัมพันธ์ที่น่าพอใจ         

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สรุปข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น 

ระเบิดศึก4Gคลื่น900 ADVANC-DTACตัวเต็ง เกณฑ์ใหม่งวดแรก 8 พันล้าน-ปลดล็อก หุ้นสื่อสาร
เปิดศึกประมูล 4G คลื่น 900 MHz วันนี้ กำหนดราคาเริ่มต้น 12,864 ล้านบาท กสทช.การันตีความพร้อมเต็มที่ทุกด้าน เชื่อแข่งดุเดือดแน่นอน พร้อมเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ไม่ว่าเคาะราคาประมูลจบที่เท่าไร งวดแรกจ่ายค่าใบอนุญาตเพียงแค่ 8,000 ล้านบาท โบรกเกอร์เชื่อ ADVANC-DTAC มีลุ้นชนะคว้าใบอนุญาต ชี้ราคาประมูลส่อพุ่ง 4 หมื่นล้านบาท

TRCปีหน้าแจ่ม รายได้5พันล้าน ลุ้นไฟฟ้าหมื่นล.
TRC การันตีปีนี้กำไรดีกว่าปีก่อน ปีหน้าเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท ล่าสุดตุนงานในมือกว่า 6,800 ล้านบาท พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ซุ่มเจรจาพันธมิตรลุยโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท

TASCO-SCCCตามนัด เข้าคำนวณดัชนีเซต50
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 หุ้น TASCO เข้ามาตามคาด ส่วนหุ้นอีก 2 ตัวคือ BLA หรือ กรุงเทพประกันชีวิต และปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ส่วนที่เข้าเซต 100 เช่น PLANB-GPSC-EPG และ WORK สำหรับรอบครึ่งแรกของปี 2559

IRPCปีหน้าเฉิดฉาย UHVตัวกระตุ้นกำไร
IRPC เผยเดินเครื่องโครงการ UHV เต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่ไตรมาส 2/59 "สุกฤตย์" ลั่นเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่น ระบุพร้อมเจรจาศึกษาแผนควบรวม PTTGC แล้ว

BEMพื้นฐาน4.90บาท ปีหน้าสีม่วงหนุนกำไร
BMCLมั่นใจราคาหุ้นBEMเกิน 4.90 บาท ผู้บริหารย้ำ หุ้นพื้นฐานดี แถมบริษัทใหม่มีศักยภาพรับงานเพิ่ม ไม่หวั่นอดขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะปีหน้าเปิดสายสีม่วงช่วยหนุนการเติบโต

EGCOลุยโรงไฟฟ้าถ่านหิน เบิกเงินกู้งวดแรกก่อสร้าง SBPL ขนาด 500 MW
"เอ็กโก" เบิกเงินกู้งวดแรก จากวงเงินกู้ทั้งสิ้น 32,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน SBPL ที่ฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 500 เมกะวัตต์

ACCทุ่มงบ19.89ล้าน ซื้อหุ้น "105 โซล่าฯ"51% จ่อบันทึกข้อตกลงธ.ค.นี้
ACC แจ้งซื้อหุ้นบริษัท 105 โซล่า เพาเวอร์ จำกัด จำนวน 51% มูลค่า 19.89 ล้านบาท คาดหวังได้รับเงินปันผลจากการลงทุน และขยายขนาดการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เตรียมบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในเดือนธ.ค.นี้

UMSผนึกพันธมิตรทางธุรกิจ CMSS เพิ่มรายได้-สร้างโอกาสโตระยะยาว
UMS ปรับแผนธุรกิจ หันใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ล่าสุดลงนามในข้อตกลงทางการตลาดร่วมกับ CMSS เพื่อสร้าง synergy ร่วมกัน หวังเพิ่มรายได้และโอกาสเติบโตในระยะยาว

'SRICHA'แบ็กล็อกพุ่ง งานใหม่ดันแตะ 2 พันล้านบาท
ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA มูลค่างานในมือพุ่งแตะ 2 พันล้านบาท หลังได้งานก่อสร้างใหม่กว่าพันล้าน และเตรียมรับงานใหญ่อีกไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทปีหน้า จากพันธมิตรบริษัท Amec Foster Wheeler โบรกฯให้เป้าหมาย 26 บาท

SIRIติดท็อปเท็นหุ้นปันผลงาม โชว์ดิวิเดนด์ยีลด์ทะลัก7.59%
SIRI ติดท็อปเท็น "Thai Dividend Index" โชว์จ่ายปันผลงามเฉลี่ยสูง 7.59% ฟากผู้บริหารประกาศตอกย้ำ พื้นฐานบริษัทแข็งแกร่ง

PTTตั้งเป้าพลาสติกชีวภาพ ฟาดรายได้โต40,000ล้านบาท ภายในปี63
PTT ตั้งเป้าปี 63 ฟาดรายได้กลุ่มพลาสติกชีวภาพแตะ 40,000 ล้านบาท ประกาศลงทุนหลักหมื่นล้านบาทเร่งขยายธุรกิจ ชี้จ่อชงบอร์ดภายในธ.ค.นี้ พิจารณาแผนลงทุนรองรับราคาน้ำมันดิ่ง

UUแจ้งยื่นไฟลิ่งก.ล.ต. ขายไอพีโอ420ล้านหุ้น เตรียมเข้าเทรดQ2/59
"ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์" (UU) ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. ขอเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 420 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรดในช่วงไตรมาส 2/59

SENAจ่อCODโซลาร์46MW มั่นใจรับรู้รายได้ตั้งแต่ม.ค.59
SENA เตรียม COD โซลาร์ฟาร์ม 46.50 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้ตามแผน เปิดฉากรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนม.ค. 59 เป็นต้นไป พร้อมตั้งเป้า 3 ปี ติดตั้งแผงโซลาร์ กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์

BANPUเป้าหมายไฟฟ้า4,000 MW เตรียมดัน BPP เข้าตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 2/59
BANPU คาดราคาถ่านหินปีหน้าดีกว่าปีนี้ที่ 58 เหรียญสหรัฐต่อตัน ย้ำแผนปี 2563 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 4,000 เมกะวัตต์ แย้มแผนนำ BPP ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ Q2/59 ไม่สนภาวะตลาด

RSทุ่ม100ล้านโปรโมตช่อง38 ส่งรายการวาไรตี้ใหม่อัพเรตติ้ง
RS ทุ่มงบลงทุน 100 ล้านบาท โปรโมทช่อง 38 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บันเทิงมาเต็ม" ด้วยการเสริมทัพทีมข่าวมืออาชีพกว่า 60 คน พร้อมทั้งเพิ่มรายการวาไรตี้ใหม่ๆ อัพเรตติ้ง

บิ๊กตู่ทดสอบระบบสายสีม่วง สั่งคมนาคม-รฟม. ปรับรูปแบบหนุนของไทย
"บิ๊กตู่" นำทีมเปิดทดสอบระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเป็นทางการ พร้อมทดลองโดยสารไป-กลับ 5 กม. สั่งคมนาคม-รฟม.ปรับรูปแบบลงทุนหนุนใช้ของไทยมากขึ้น พร้อมหาวิธีช่วยผู้มีรายได้น้อยได้ใช้บริการรถไฟฟ้า

NUSAอัดแคมเปญส่งท้ายปี กระตุ้นยอดขาย "ชีวานี พัทยา"
NUSA อัดแคมเปญบ้านพร้อมอยู่ Ready to move ถือกระเป๋าใบเดียวอยู่ได้เลย กระตุ้นการขายโครงการ ณุศา ชีวานี พัทยา หนุนโปรเจ็กต์ใหญ่ NUSASIRI พัทยา มูลค่ากว่า 8,500 ล้านบาท ในไตรมาส 4/58

VIBHAลั่นปีหน้ารายได้โต10% เล็งเปิดโรงพยาบาลใหม่8แห่ง
VIBHA วางปีหน้ารายได้โต 10% ลุยลงทุนผ่าน "โรงพยาบาลวิภาราม" วางแผน 5 ปี เปิดโรงพยาบาลใหม่ 8 แห่ง โชว์เงินทุนพร้อมทุ่ม ย้ำชัดปีนี้กำไรนิวไฮอีกรอบ

หุ้นเอเชียปิดลดลงยกเว้นตลาดจีน น้ำมันดิ่งต่อ - จับตาการเคลื่อนไหวของ "เฟด"
หุ้นเอเชียปิดลดลงเป็นส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง และนักลงทุนยังคงให้ความสนใจต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐในกลางสัปดาห์นี้ แต่ตลาดจีนสวนกระแสตลาดอื่นๆ เนื่องจากหุ้นโบรกเกอร์และธนาคารปรับตัวขึ้น

"หยวน" อ่อนสุดรอบสี่ปีครึ่งอีกครั้ง จีนตั้งเป้าเลิกผูกค่ากับเงินดอลลาร์
เงินหยวนแตะระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีครึ่งอีกครั้งเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้หลังธนาคารกลางจีนประกาศว่า จะเริ่มเผยแพร่อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่ชั่งน้ำหนักโดยเทียบกับตระกร้าเงิน มีการมองว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวที่จะลดการผูกเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ในที่สุด

ITD- ROJNAพร้อมลุยทวาย 'สมคิด' ยันเฟสแรกเริ่มได้ไตรมาส 1/59
"สมคิด" มั่นใจ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เดินหน้าเฟสแรก ไตรมาสหนึ่งปี 2559 อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะพร้อมลุยนิคมอุตสาหกรรม โรงผลิตไฟฟ้า ท่าเรือ อ่างเก็บน้ำ ถนนสองเลน และการวางโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน

LITจับ'กรุงไทย' ร่วมปล่อยเงินกู้ เปิดแอลซีSME
บมจ.ลีซอิท หรือ LIT ปล่อยกู้นอกภาคไอที เปิดใช้บริการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C พร้อมปล่อยกู้ Project Backup Finance ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าเอสเอ็มอีครบวงจร พร้อมมั่นใจพอร์ตสินเชื่อปี 58 ทะลุเป้า 1,150 ล้านบาท รายได้-กำไรโตไม่ต่ำกว่า 30%

ทรีนีตี้ชี้หุ้นปี59ผันผวนต่อ ชูหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ฟอร์มเด่น
บล.ทรีนีตี้ ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยปีหน้า มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้นกว่า 400 จุด เหตุไร้ปัจจัยสนับสนุนชัดเจน ให้กรอบดัชนี 1,100-1,500 จุด แนะกลยุทธ์การลงทุน "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" ลุยหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ฟอร์มเด่นชนะตลาด

'บัวหลวง' จัดDWอีก22รุ่น อิงกลุ่ม 'สื่อสาร-พลังงาน'
บล.บัวหลวง (BLS) ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ DW อีก 22 รุ่น อิงหุ้นสำคัญหลายตัวในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร ธนาคาร และปิโตรเคมี

คลังรุกชงพรบ. เพิ่มขีดแข่งขัน เลื่อนฟิวเจอร์ฯ
คลังเสนอ พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทเข้าครม.วันนี้ ส่วนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเลื่อนไปก่อน หวั่นสับสน ขณะที่นักลงทุนสนใจร่วมทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแล้ว 78 ราย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

เปิดโผหุ้นจ่อรีบาวด์ก่อน กลุ่มแบงก์ BBL-KTB อสังหาฯ PS-SPALI-QH
โบรกฯ เปิดโผหุ้นพื้นฐานดีมีอนาคตรอรีบาวด์ นำทีมโดย KTB-BBL-SCB-TMB-ROBINS-GLOBAL-ITD-CK-PS-SPALI-QH-BH-SAWAD-GUNKUL-EA-AOT-MINT และ CENTEL มั่นใจรับมือความผันผวนปี 59 ได้

'กนง.'คงดอกเบี้ย1.50% หนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี คาดที่ประชุมกนง. 16 ธ.ค.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% หนุนการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุน ดัชนีความเชื่อมั่นเริ่มดี เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แนวโน้มตรึงดอกเบี้ยต่อไปอีก

Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน 15 ธันวาคม 2558

Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
15 ธันวาคม 2558
.................................
ณัฐพัช กิตติปวณิชย์, Fund Management

Guru Quotes

Warren Buffett "หนทางที่จะสร้างให้คุณร่ำรวยก็คือ จงกลัวขณะคนอื่นกำลังโลภ และจงกล้าขณะคนอื่นกำลังหวาดระแวงและลังเล"

General News

• การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ครังที่ 21 หรือ COP21 ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้จำกัดการปรับขึ้นอุณหภูมิโลกไม่ให้ร้อนขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส โดยพยายามให้ไม่สูงกว่า 1.5 องศา และจะประเมินความสำเร็จของแต่ละประเทศเป็นอย่างต่อเนื่อง ข้อตกลงครั้งนี้ถือว่ากว้างขวางยิ่งกว่า Kyoto Protocol เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและอินเดียมากยิ่งขึ้น

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซน (EU) เดือน ต.ค.ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1.3% โดยได้แรงหนุนจากการพื้นตัวของภาคการผลิตในประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเติบโตถึง 3.4% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของกรีซ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ล้วนแต่หดตัว

• อัตราเงินเฟื้อผู้บริโภคของอิตาลีเดือน พ.ย.คงตัวที่ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เท่ากับการประมาณการเบื้องต้น ทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในแดนบวกเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และธุรกิจขนส่ง มีส่วนหนุนดัชนีในอัตราส่วน 16% และ 15% ตามลำดับ

• ในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุม FOMC เพื่อหารือนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดทั่วโลกต่างจับตาว่าจะมีประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดย 76% คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.375% ซึ่งเป็นขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี นอกจากนั้นแล้ว ตัวเลขเศรษฐกิจจีนไม่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในเดือน พ.ย. ล้วนแต่ดีขึ้นกว่าคาดหมาย ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลในการตัดสินใจของคณะกรรมการ FOMC

• ธนาคารกลางจีนย้ำเน้นถึงความสำคัญที่ต้องควบคุมเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ หลังเกิดแรงเทขายเงินหยวนอย่างรุนแรง จนค่าเงินปรับลง 1.37% มาอยู่ที่ 6.45 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับแต่ปี 2554  ทั้งนี้การอ่อนค่าของหยวนนั้นเป็นผลมาจากธนาคารกลางจีนลดระดับความเชื่อมโยงระหว่างหยวนกับดอลลาร์ลง โดยให้อ้างอิงหยวนกับสกุลเงินของคู่ค้ามากขึ้น และยังคาดกันว่าธนาคาร กลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้

• ธนาคารกลางญี่ปุ่นเผยว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ผลิตรายใหญ่ในญี่ปุ่นในไตรมาส 4 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสก่อน โดยทรงตัวอยู่ที่ +12 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่มีแผนลงทุนสูงขึ้น 10.8% ในสิ้นสุดปีงบประมาณ 2559 แต่บริษัทต่างๆ วางแผนเน้นใช้จ่ายในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณมากกว่าครึ่งปีแรก สะท้อนถึงความคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือน ต.ค.ปรับตัวขึ้น 1.4% ตามที่ได้ประเมินเบื้องต้น โดยดัชนีขนส่งในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.1% มาอยู่ที่ 98.8 และดัชนีสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมลดลง 1.9% มาอยู่ที่ 111.4

• คณะกรรมการบริการการเงินเกาหลีใต้ประกาศว่า จะเข้มงวดต่อการปล่อยเงินกู้จำนองแก่ครัวเรือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป หลังสินเชื่อครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จากที่อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ และรัฐบาลได้ผ่อนคลายข้อบังคับจำนองต่างๆ

• กระทรวงพานิชย์คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวในปี 2558 จะมีปริมาณ 10 ล้านตัน รวมมูลค่า 4,855 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 4.8% จากที่ประเมินไว้ 5,100 ล้านเหรียญ ขณะที่ผลกระทบจากภัยแล้งนั้น กดให้เป้าหมายส่งออกในปีหน้าลดเหลือ 9 ล้านตัน หรือคิดเป็น 4,787 ล้านเหรียญ ทั้งนี้ กรมชลประทานคาดว่าปริมาณน้ำในปีหน้าจะเพียงพอต่อการบริโภคและหล่อเลี้ยงระบบนิเวศ แต่จะขอความร่วมมือให้งดปลูกพืชนอกฤดูกาลอย่างเช่นข้าวนาปรัง โดยจะจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรในหน้าแล้งให้ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 400 ล้าน ลบ.ม.

Equity Market

•  SET Index ปิดที่ 1,267.61 จุด ลดลง -13.31 จุด หรือ -1.04% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,700.97 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทย (14 ธ.ค.) ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดในภูมิภาค เนื่องด้วยความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างรุนแรง นอกจากนั้น การลงทุนใน LTF-RMF ยังน่าผิดหวัง โดยมีเม็ดเงินหมุนเวียนน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่ดัชนีจะดีดตัวขึ้นในวันนี้ จากแรงซื้อช่วงก่อนปิดตลาดวันจันทร์ และตลาดรับรู้ NPL ของบางธนาคารเรียบร้อยแล้ว

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน +1,016.82 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -28.42 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -3,235.19 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป +2,246.79 ล้านบาท

Fixed Income Market

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.01% ถึง 0.01% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60,648.80 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนและ 6 เดือน วงเงินชนิดละ 30,000 ล้านบาท

เปิดโผหุ้นจ่อรีบาวด์ก่อน

เปิดโผหุ้นจ่อรีบาวด์ก่อน

2015-12-15
โบรกฯ เปิดโผหุ้นพื้นฐานดีมีอนาคตรอรีบาวด์ นำทีมโดย KTB-BBL-SCB-TMB-ROBINS-GLOBAL-ITD-CK-PS-SPALI- QH-BH-SAWAD-GUNKUL-EA-AOT-MINT และ CENTEL มั่นใจ รับมือความผันผวนปี 59 ได้

นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มหุ้นไทยช่วงสัปดาห์นี้ (15-18 ธ.ค. 58) ยังคงมีความผันผวนจนกว่าจะได้ขอสรุปผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ และมองว่าหลังจากเฟดได้ข้อสรุปเรื่องดอกเบี้ยแล้ว นอกจากความผันผวนในตลาดจะลดลง ก็จะมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่เหลือของปีนี้เฉลี่ยประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขยับตัวดีขึ้น
ในส่วนของนักลงทุน แนะว่า ช่วงที่ดัชนีปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในขณะนี้ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีมีโอกาสรีบาวด์ในช่วงปี 2559 โดยกลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงมามากในขณะนี้ คือ หุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับปัจจัยลบจากนอกประเทศต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มสื่อสาร ที่จะคงมีปัจจัยลบจากการประมูลคลื่น 4 Gรอบที่สองที่จะมีขึ้นในวันนี้ (15 ธ.ค. 58) และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ยังได้รับปัจจัยลบจากการเทขายจากนักลงทุนกรณีเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวราคาจะปรับตัวลดลงมา แต่ยังไม่เหมาะกับการเข้าไปลงทุนเพราะยังมีปัจจัยลบเข้ากระทบ เว้นแต่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีข้อเสียน้อยสุดเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มสื่อสารและพลังงาน ดังนั้น ช่วงที่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงมามาก นักลงทุนสามารถเข้าไปลงทุน เพื่อรอรีบาวด์ได้ อย่างหุ้น KTB หุ้น BBL หุ้น SCB และหุ้น TMB
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มค้าปลีก อย่างหุ้น ROBINS หุ้น GLOBAL ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างหุ้น ITD และหุ้น CK ที่ได้อานิสงส์จากโครงการภาครัฐบาล หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่างหุ้น PS หุ้น SPALI และหุ้น QH ซึ่งเชื่อว่าหุ้นกลุ่มนี้ยังคงได้อานิสงส์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลที่เชื่อว่าน่าจะยังคงมีต่อเนื่องในช่วงปี 59 และหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล อย่างหุ้น BH
นายทรงกลด วงศ์ไชโย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด  กล่าวว่า หลักทรัพย์ที่มีโอกาสรีบาวด์ได้ในช่วงปี 2559 คือ หุ้นกลุ่มลีสซิ่ง อย่างหุ้น SAWAD เพราะหุ้นดังกล่าวสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดี หุ้นกลุ่มที่มีนวัตกรรมใหม่ อย่าง EPG หุ้นกลุ่มพลังงานไฟฟ้าทดแทน อย่างหุ้น GUNKUL และหุ้น EA หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว แม้ว่าราคายังปรับตัวลงไม่มาก แต่ก็น่าลงทุน เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะได้รับอานิสงส์จากค่าเงินสหรัฐที่อ่อนค่าขึ้น โดยหุ้นที่เหมาะสมในการลงทุน คือ หุ้น AOT หุ้น MINT และหุ้น CENTEL
ส่วนภาพการลงทุนของตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้ว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อเลี้ยงชีพ (RMF) ทยอยเข้ามาต่อเนื่องช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงมามากก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เข้าลงทุนในทันที เพราะต้องรอดูสถานการณ์หลังจากการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ระเบิดศึก4Gคลื่น900 ADVANC-DTACตัวเต็ง :เกณฑ์ใหม่งวดแรก8พันล้าน-ปลดล็อก หุ้นสื่อสาร

ระเบิดศึก4Gคลื่น900 ADVANC-DTACตัวเต็ง :เกณฑ์ใหม่งวดแรก8พันล้าน-ปลดล็อก หุ้นสื่อสาร

2015-12-15 12:00:00
ผู้เข้าชม : 6

เปิดศึกประมูล 4G คลื่น 900 MHz วันนี้ กำหนดราคาเริ่มต้น 12,864 ล้านบาท กสทช.การันตีความพร้อมเต็มที่ทุกด้าน เชื่อแข่งดุเดือดแน่นอน พร้อมเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ไม่ว่าเคาะราคาประมูลจบที่เท่าไร งวดแรกจ่ายค่าใบอนุญาตเพียงแค่ 8,000 ล้านบาท โบรกเกอร์เชื่อ ADVANC-DTAC มีลุ้นชนะคว้าใบอนุญาต ชี้ราคาประมูลส่อพุ่ง 4 หมื่นล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (15 ธ.ค.) กสทช.พร้อม 100% ในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz โดยได้มีการเตรียมทุกด้านทั้ง สถานที่ ระบบซอฟต์แวร์ประมูล บุคลากร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความโปร่งใส
สำหรับขั้นตอนการประมูลเริ่มเวลา 07.00-07.50 น. จะเปิดให้ผู้เข้าร่วมการประมูล จะมาลงทะเบียนที่ห้องโถงชั้น 1 อาคารอำนวยการ จากนั้นเวลา 08.00 น. จะเป็นการจับสลากเพื่อเลือกห้องประมูลและซองบรรจุ User name หรือ Login ID และรหัสผ่านครั้งแรก หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมประมูลจะเข้าห้องประมูลตามลำดับที่จับสลากได้ และเริ่มประมูลรอบแรกในเวลา 09.00 น. และประมูลต่อเนื่องจนถึงเวลา 21.00 น. จากนั้นให้พัก 3 ชั่วโมง และเริ่มประมูลอีกครั้งในเวลา 00.01-06.00 น. พักอีก 3 ชั่วโมง เริ่มประมูลอีกครั้งในเวลา 09.00-21.00 น. ต่อเนื่องในรูปแบบนี้ไปจนกว่าจะจบการประมูล 
นายฐากร กล่าวว่า จากขนาดของคลื่นความถี่ที่นำมาประมูล และระยะเวลาของอายุใบอนุญาตของคลื่น 900 MHz กับคลื่น 1800 MHz ที่แตกต่างกัน โดยคลื่น 900 MHz มีขนาดคลื่นความถี่ใบละ 10 MHz และมีอายุใบอนุญาต 15 ปี ขณะที่คลื่น 1800 MHz มีขนาดคลื่นความถี่ใบละ 15 MHz และมีอายุใบอนุญาต 18 ปี ซึ่งผลประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz เมื่อวันที่ 11-12 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2692.6 ล้านบาทต่อ 1 MHz ดังนั้นหากราคาผลการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ได้ราคาเฉลี่ยมูลค่าคลื่นความถี่ต่อ 1 MHz ที่ 2,692 ล้านบาท หรือสูงกว่า ถือว่าเป็นราคาการประมูลที่มีการแข่งขันดุเดือดมาก
ก่อนหน้านี้ กสทช.ประเมินสถานการณ์ประมูลคลื่น 900 MHz หากมีการเคาะราคาทุกรอบ เมื่อจบการเคาะราคาเวลา 21.00 น. ของวันที่ 15 ธ.ค. 2558 ราคาจะอยู่ที่ 26,066 ล้านบาท เคาะราคาต่อเนื่องจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. 2558 ราคาจะอยู่ที่ 31,862 ล้านบาท และเคาะต่อเนื่องถึงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. 2558 ราคาจะอยู่ที่ 43,454 ล้านบาท หากต่อเนื่องถึงเวลา 06.00 น.  ของวันที่ 17 ธ.ค. 2558 ราคาอยู่ที่ 49,250 ล้านบาท และต่อเนื่องถึงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 17 ธ.ค. 2558 ราคาอยู่ที่ 60,842 ล้านบาท เคาะราคาต่อเนื่องจนถึง 06.00 น. ของวันที่ 18 ธ.ค. 2558 ราคาอยู่ที่ 66,638 ล้านบาท  
สำหรับการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz แบ่งออกเป็น 2 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10 MHz มีอายุใบอนุญาต 15 ปี โดยราคาขั้นต่ำของการประมูลครั้งนี้อยู่ที่ 12,864 ล้านบาท  ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเคาะราคาครั้งแรกที่ 13,508 ล้านบาท จากนั้นการเคาะราคาจะเพิ่มขึ้นรอบละ 5% ของราคาขั้นต่ำ คิดเป็น 644 ล้านบาท เมื่อราคาประมูลถึง 16,080 ล้านบาท การเคาะประมูลจะเพิ่มขึ้นเหลือครั้งละ 2.5% ของราคาขั้นต่ำ  คิดเป็น  322 ล้านบาท
ขณะที่งวดการชำระเงินประมูลคลื่น 900 MHz ต่างจาก 1800 MHz แบ่งจ่ายดังนี้ งวดแรกจ่าย 50% หรือ 8,040 ล้านบาท (หรือ 50% ของ 16,080 ล้านบาท) ภายใน 90 วัน เมื่อได้รับแจ้งเป็นผู้ชนะอีก 25% หรือ 4,020 ล้านบาท ปีที่ 2 และปีที่ 3 อีก 25% หรือ 4,020 ล้านบาท และจ่ายส่วนที่เกินจาก 16,080 ล้านบาท งวดที่ 4 จึงไม่เป็นภาระผู้ประกอบการช่วงปีแรกที่ต้องลงทุนเพื่อเปิดให้บริการ
โดยผู้ที่ผ่านคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz มีทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS, บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC, บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE
:โบรกเกอร์ชี้ ADVAC-DTAC ชนะ
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บนสมมติฐานราคาประมูลสิ้นสุดสำหรับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท จะเป็นมูลค่าเพิ่มสำหรับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ของ ADVANC ที่ 3.80 บาท ส่วนหุ้น DTAC ที่ 4.80 บาท และหุ้น TRUE ที่ระดับ 0.50 บาท
โดยคาดราคาสิ้นสุดประมูลสำหรับคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์มีแนวโน้มออกมาในช่วง 4-4.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะการแข่งขันด้านราคาของการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากกว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรซต์ (อย่างน้อยมีผู้ประกอบการ 3 รายที่จะต้องแย่งชิงสองใบอนุญาต)
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์บ่งชี้ว่า หากราคาประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์สูงเกินกว่า 49,200 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มจากใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์จะกลายเป็นติดลบไปเลยโดยทันที และทุกการเปลี่ยนแปลงของราคาประมูล 5% (หรือคิดเป็น 1.9 พันล้านบาท) จะกระทบมูลค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์คิดเป็นประมาณ 17% และใช้สมมติฐานว่าท้ายที่สุดแล้ว ADVANC และ DTAC จะเป็นผู้ชนะการประมูล ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์
นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันหลังจากการประมูลในอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์เสร็จ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการกลับเข้าไปซื้อสะสมหุ้นกลุ่มในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกครั้ง และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจในระดับ 6-7.5%
โดยคาด ADVANC จะกลับมาเป็นผู้นำด้านการให้บริการดาต้าอย่างแน่นอนหลังจากสามารถครอบครองใบอนุญาตคลื่นความถี่ทั้ง 1800 เมกะเฮิรตซ์และ 900 เมกะเฮิรตซ์ นอกจากนี้ หุ้น INTUCH เป็นหุ้นที่ฝ่ายวิเคราะห์ชอบอันดับสองในฐานะบริษัทโฮลดิ้งซึ่งถือหุ้นใน ADVANC และตามด้วยหุ้น DTAC ซึ่งอยู่ในสถานะที่ถูกเทขายมากเกินไป
:กฤษฎีกาหนุนนำคลื่นจัดสรรใหม่
นายฐากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่นายอนุชิต ธูปเหลือง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรื อ TOT ได้ส่งหนังสือสอบถามสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องอำนาจในการนำคลื่น 900 MHz ของ TOT ที่หมดสัญญาสัมปทานกับ ADVANC เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา โดยขอให้ตรวจสอบการทำงานของกสทช.ว่ามีอำนาจในการนำคลื่นมาประมูลหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งผลการวินิจฉัยให้ประธานกรรมการ TOT และปลัดกระทรวงการคลังในฐานะผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลและกำกับนโยบาย TOT พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในประเด็นตามข้อร้องเรียนดังกล่าว หากพบว่าส่งผลกระทบต่อ TOT ในการนำคลื่นความถี่ไปดำเนินการภายหลังการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของ ADVANC เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 ก็ขอให้พิจารณาสั่งการให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ให้ไปดำเนินการใช้สิทธิในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือตอบกลับมายังทีโอทีถึงประเด็นดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่า เมื่อสัญญาสัมปทานระหว่าง TOT กับ ADVANC สิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย. 2558 สิทธิตามกฎหมายของ TOT ในการใช้คลื่นความถี่จึงสิ้นสุดลงตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ฯ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ต้องคืนคลื่นความถี่ดังกล่าวให้แก่ กสทช.เพื่อนำไปจัดสรรใหม่หรือปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ฯ นับตั้งแต่วันที่สัญญาสัมปทานสิ้นสุดลง

  • 2015-11-17 12:00:00 - ADVANCเครดิตยังเยี่ยมคว้าคลื่น1800ไม่กระทบกทค.รับรองผลประมูล คลอดไลเซนส์ 25 พ.ย.นี้