วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

LPNแจ้งQ1กำไรทรุด292ล้าน

LPNแจ้งQ1กำไรทรุด292ล้าน

2015-05-08 12:00:00
ผู้เข้าชม : 3

:เตรียมเปิดอีก10โครงการใหม่

"แอลพีเอ็น" เผย Q1/58 มีกำไรสุทธิ 292 ล้านบาท ลดลง 16.70% ตุนแบ็กล็อก 1.9 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊คปีนี้ 1.33 หมื่นล้านบาท เตรียมส่งมอบอีก 10 โครงการ มูลค่า  1.77 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่า 1.98 หมื่นล้านบาท

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/58 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 292.06 ล้านบาท ลดลง 16.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 2,182.49 ล้านบาท ลดลง 12.78% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
โดยในไตรมาส 1/58 มีโครงการที่ส่งมอบเพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี เพลส สุขสวัสดิ์-พระราม 2 ซึ่งสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ 85% ของยูนิตทั้งหมด และจากบริษัทย่อย 1 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนท์ บางนา–ศรีนครินทร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถรักษาอัตรากาไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/58 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.97% ลดลง 0.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 13.38%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/58 บริษัทได้เปิดขายโครงการต่างจังหวัด จำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นการเปิดขายโครงการแรกของปี 2558 คือ โครงการลุมพินี พาร์คบีช ชะอา จังหวัดเพชรบุรี มูลค่าโครงการ 1,090 ล้านบาท ซึ่งผลตอบรับเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สร้างยอดขาย 70% จากจำนวนห้องชุดที่เปิดขาย 330 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม การเลือกทำเลชายหาดชะอำที่โดดเด่นเป็นที่น่าสนใจ รวมถึงการออกแบบด้านผลิตภัณฑ์ (Product Value-LPN Green Design) ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และคุณค่างานบริการ (Service Value) ในแบบฉบับเฉพาะของชุมชนน่าอยู่ที่ทุกคนเชื่อมั่นและไว้วางใจเสมอมาจึงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
นายโอภาส กล่าวอีกกว่า สำหรับช่วง 9 เดือนที่เหลือของปี 2558 จะมีโครงการที่จะสร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบเพิ่มอีกจำนวน 6 โครงการ และจากบริษัทย่อยจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 17,722 ล้านบาท และบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 10 โครงการ แบ่งเป็นบริษัทย่อย 3 โครงการ มูลค่ารวม 19,867 ล้านบาท
ส่วนยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทมีแบ็กล็อกอยู่ 19,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปี 2558 จำนวน 13,300 ล้านบาท และรับรู้ในปี 2559 จำนวน 5,700 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทสามารถลดสินค้าคงเหลือที่ยกมาจากปี 2557 ได้ 15%
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 20,951.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.90% จากปีก่อน เนื่องมาจากที่ดินและต้นทุนโครงการระหว่างก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1,820.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.80% และสินค้าคงเหลือลดลง 599.70 ล้านบาท หรือลดลง 12.10% เกิดจากโครงการที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากปี 2557 และเป็นการลงทุนซื้อที่ดินมาพัฒนาเพิ่มในปี 2558 อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ และโครงการบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ รวมทั้งมีโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จเพียง 2 โครงการ
ด้านหนี้สิน บริษัทมีหนี้สินรวมที่ 10,251.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.34% เนื่องมาจากการขยายตัวของโครงการที่เพิ่มขึ้นตามแผนงาน และลงทุน Community Mall เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการหารายได้ประจำใหม่ ทำให้มีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 652 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.93% ขณะที่กระแสเงินสดงวดสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 อยู่ที่ 957.66 ล้านบาท หรือลดลง 48.19% เนื่องจากโอนกรรมสิทธิ์น้อยกว่า มีการลงทุนพัฒนาโครงการต่อเนื่อง และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น