วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จอร์จ โซรอส ลงทุนหุ้นถ่านหิน !!

จอร์จ โซรอส ลงทุนหุ้นถ่านหิน !!

Click image for larger version

Name: โซรอส.png
Views: 1
Size: 252.3 กิโลไบต์
ID: 215767

?Money is made by discounting the obvious and betting on the un-expected? 
ช่วงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ราคาถ่านหินโลกร่วงอย่างรุนแรงจากราคาสูงสุด 140 เหรียญ ลงมาสู่ระดับที่ 40 เหรียญ ทำให้อุตสาหกรรมถ่านหินเข้าสู่ยุคตกต่ำ หุ้นที่ทำธุรกิจถ่านหินย่ำแย่กันเกือบทั่วโลก ถ้าพูดถึงในประเทศไทยก็คงจะเป็นหุ้น Banpu ที่ราคาหุ้นตกลงจาก 80 บาท ลงมาเหลือเพียงแค่ 20 บาทต้นๆเท่านั้น(ปรับการแตกพาร์แล้ว) ด้วยราคาถ่านหินที่ตกลงมา ทำให้ผลประกอบการของบ้านปูไม่ดีเท่าที่ควร และนักวิเคราะห์ก็คาดกันว่าอาจจะมีผลขาดทุนได้ ถ้าเรายังไม่เห็นราคาถ่านหินกระเตืองขึ้นไปได้อีก

ในขณะที่หุ้นถ่านหินเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป แต่ก็ต้องมีนักลงทุนระดับโลกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่(อาจจะ)มองจังหวะนี้เป็นโอกาสในการลงทุนหุ้นถ่านหิน คนผู้นั้นก็คือ จอร์จ โซรอส นักลงทุนและผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลกอย่างควอนตั้มฟันด์ เจ้าของระบบคิดทฤษฏีการสะท้อนกลับที่ดังไปทั่วโลก ด้วยอายุ 85 ปี ผ่านประสบการณ์ด้านการลงทุนมาอย่างโชกโชนไม่แพ้วอเร็น บัฟเฟตต์ อาจจะไม่รวยเท่า แต่เขาก็ติดทำเนียบมหาเศรษฐีอันดับที่ 19 ด้วยทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าการลงทุนของเขาก็มีนำหนักให้สื่อและประชาชนทั่วไปหันมาสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

จอร์จ โซรอส ได้ซื้อหุ้นถ่านหิน 2 ตัวนั้นคือ หุ้น Arch Coal และหุ้น Peabody Energy ซึ่งทั้งสองบริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาเจ้าของสัมปทานเหมืองถ่านหินในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ราคาหุ้นก็ดูไม่จืดเช่นกันครับ อย่าหุ้น Arch Coal มีผลประกอบการขาดทุนและไม่มีการจ่ายปันผล ราคาหุ้นร่วงจาก 390 เหรียญเหลือเพียง 4 เหรียญเท่านั้น ในขณะเดียวกันหุ้น Peabody Energy ก็ประสบปัญหาไม่แพ้กันนั้นคือขาดทุนอย่างหนัก ราคาหุ้นตกจาก 1,000 เหรียญเหลือแค่ 25 เหรียญเท่านั้น ถ้าเทียบกับหุ้น Banpu ในประเทศไทยนี้ถือว่าเป็นเด็กไปเลยครับ เพราะอย่างน้อยบริษัทก็ยังจ่ายปันผลให้กับคนถือหุ้นบ้าง 
Click image for larger version

Name: Coal DJIA.png
Views: 1
Size: 214.5 กิโลไบต์
ID: 215766
Click image for larger version

Name: 
Views: 2
Size: 21.2 กิโลไบต์
ID: 215765
ราคาถ่านหินโลกร่วงอย่างรุนแรง จนทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจถ่านหินย่ำแย่กันทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย
เรามาดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทั้งสองตัวกันครับ ย้อนหลัง 5 ปี

Click image for larger version

Name: 
Views: 2
Size: 32.7 กิโลไบต์
ID: 215763


Click image for larger version

Name: 
Views: 2
Size: 34.1 กิโลไบต์
ID: 215764


จริงๆแล้ว จอร์จ โซรอส ไม่เคยประกาศออกสื่อว่าเขาซื้อหุ้นถ่านหิน เพียงแต่มีนักข่าวติดตามเกาะกระแสเขาอยู่จึงทราบและตีพิมพ์ออกมาเป็นข่าว จนถึงบัดนี้โซรอสเองก็ไม่เคยออกมาพูดผ่านสื่่อแสดงความเห็นทางด้านการลงทุนของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ก่อนหน้านี้ตอนที่ราคาถ่านหินอยู่ในระดับสูง โซรอสถูกเชิญจากสถานี Bloomberg ไปสัมภาษณ์ข่าวเกี่ยวกับมุมมองทางการลงทุน เขาประกาศว่ากำลังสนใจในธุรกิจ "พลังงานสะอาด" ขาดว่าจะลงทุนในธุรกิจตัวนี้ด้วยวงเงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อไปพลังงานถ่านหินจะถูกต่อต้านจากคนจำนวนมาก มันสกปรก และสร้างมลภาวะทางอากาศอีก เขายังได้เข้าร่วมกลุ่มต่อต้านการใช้ถ่านหินในสหรัฐอเมริกา โดยบอกว่ามันเป็นพลังงานชั้นต่ำที่จะสร้างให้อเมริกาเป็นดินแดนแห่งหมอกควัน

นักลงทุนจำนวนมากรู้สึกไม่เข้าใจว่าโซรอสคิดอะไรอยู่ มหาเศรษฐีผู้เลอะเลือนคนนี้อยากจะเสียเงินจากตลาดหุ้นมากสินะ ใครๆก็กำลังลงทุนในธุรกิจถ่านหิน มันจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ เมื่อน้ำมันหมดโลกไปแล้ว ถ่านหินจะราคาแพงเทียบเท่ากับน้ำมัน .. กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่ความจริง ราคาถ่านหินร่วงอย่างรุนแรง เศรษฐกิจจีนไม่ดี นำเข้าถ่านหินน้อยลง อีกทั้งยังสกปรกอีกด้วย ใครๆก็ต่อต้าน จะสร้างก็ได้นะแต่ต้องไม่ใช่แถวบ้านผม นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่อง Shale gas พลังงานที่คาดว่าจะมาแทนถ่านหิน แถมยังมีปริมาณมากกว่าถ่านหินอีกด้วย แล้วพวกเราก็เข้าสู่ยุครุ่งเรืองของพลังงานสะอาด ใครๆก็ลงทุนในโซล่าร์ฟาร์ม ขอเพียงแค่ประกาศว่า บริษัทเรา "กำลังคิด" อยู่ หุ้นก็พร้อมจะวิ่งระเบิด

สื่ออเมริกากล่าวหาว่าจอร์จ โซรอสเป็นพวก "มือถือสาก ปากถือศีล" ทั้งที่ไม่นานมานี้ได้ออกมาประกาศว่าเขาต่อต้านการใช้ถ่านหิน แต่ตัวเขากลับลงทุนหุ้นถ่านหินเสียเอง ไม่แน่ว่าโซรอสอาจจะออกมาประกาศผ่านสื่อว่า เทคโนโลยีเราก้าวหน้าไปไกลทำให้การใช้ถ่านหินจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ถ่านหินกลายเป็นพลังงานสะอาดไปแล้ว ...
อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าธุรกิจถ่านหินจะสร้างผลกำไรให้กับผู้ที่ลงทุนหรือเปล่า แต่การคิดต่างกับคนส่วนใหญ่ สร้างเศรษฐีมานักต่อนักแล้ว ต้องรอดูกันต่อไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น